ไพบูลย์ระบุสว.คุยใหม่ไม่เกี่ยวคสช. กดดัน11สค.เคาะ

'ไพบูลย์ นิติตะวัน' มั่นใจ 11 ส.ค. เรื่องที่แขวนไว้ต้องได้ข้อสรุปทั้งหมด ประเด็น ส.ว.คุยใหม่ทั้งหมด ยันไม่เกี่ยวกระแสข่าว คสช.กดดัน ด้าน 'สปช.ประเสริฐ' ระบุ พอรับได้ ร่าง รธน. ในประเด็นกว้าง ๆ
นายไพบูลย์ นิติตะวัน กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า การพิจารณาในประเด็นที่แขวนไว้ 2 เรื่องสำคัญ คือ เรื่อง ส.ว. และเรื่องกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูป ซึ่งในเรื่องของที่มา ส.ว. จะนำมาหารือกันใหม่ทั้งหมด เพราะยังมีผู้ทักท้วงจำนวนมาก ส่วนจะได้ข้อสรุปอย่างไรมีการปรับเปลี่ยนจากที่ได้มีมติไปบางส่วนแล้วหรือไม่นั้นต้องรอคุยกันก่อน แต่ยืนยัน ไม่เกี่ยวกับข่าวลือถูก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กดดันมาแต่อย่างใด ส่วนเรื่องกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปนั้น จะคุยกันในเรื่องจำนวน และที่มา ซึ่งส่วนตัวคาดว่า น่าจะมีทั้งหมด 23 คน ซึ่งมั่นใจว่าจะต้องได้ข้อสรุปทั้งหมดในวันที่ 11 ส.ค.นี้แน่นอน
นอกจากนี้ ยังมีประเด็น ม.190 ที่ทางไทยพีบีเอสทักท้วงมาด้วย โดยจะมีการปรับแก้ไข ให้ยังสามารถดำเนินการต่อไปได้ เพราะไม่ได้ทำให้รัฐสูญเสียรายได้แต่จะต้องไม่ให้มีองค์กรอื่นออกกฎหมายในลักษณะ ไปตัดภาษีนอกระบบงบประมาณได้อีกในอนาคต ส่วนเรื่องบันทึกเจตนารมณ์ ใกล้จะเรียบร้อยแล้วเหลือเพียงในมาตราที่เกี่ยวกับการปฏิรูป และบทเฉพาะกาลเท่านั้น
'สปช.ประเสริฐ' พอรับได้ ร่าง รธน.
นายประเสริฐ ชิตพงศ์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการติดตามการปรับแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ต้องยอมรับจริง ๆ ยังไม่เห็นรายละเอียดหรือความชัดเจนมากนัก จึงยังตอบไม่ได้ว่าตรงกับที่กลุ่มต่าง ๆ เสนอปรับแก้ไขไปมากน้อยเพียงใด แต่ส่วนตัวจากการติดตามที่กรรมาธิการยกร่างแถลงในประเด็นกว้าง ๆ และที่สื่อนำเสนอ ก็พอรับได้ แต่ทั้งหมดก็ต้องรอเห็นร่างจริง ๆ ดูเนื้อหาทั้งหมดอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจในการโหวตต่อไป
ทั้งนี้ นายประเสริฐ ซึ่งเคยเป็นอดีต ส.ว.จังหวัดสงขลา ยังได้กล่าวถึงประเด็นที่มาของ ส.ว. ว่า จากที่ได้ติดตาม ที่จะแบ่งให้มี ส.ว. มาจากการเลือกตั้ง และสรรหานั้น ตนก็เห็นด้วย แม้ว่า จำนวน ส.ว.แบบสรรหา จะเพิ่มมากขึ้นกว่ารัฐธรรมนูญ ปี 2550 ถึง 50 กว่าคน แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่า เรื่อง ส.ว. จะได้บทสรุปแบบนี้ทั้งหมดเพราะกรรมาธิการยกร่าง จะมีการสรุปเรื่องดังกล่าวอีกครั้งในสัปดาห์หน้า