ผบ.ทบ. ปธ.ประดับยศว่าที่ร้อยตรี นศท.

ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานประกอบพิธีประดับเครื่องหมายว่าที่ร้อยตรีนักศึกษาวิชาทหารปีที่ 5 ให้โอวาท ว่าที่ร้อยตรีนักศึกษาวิชาทหาร ขอช่วยกันนำพาสังคมและประเทศชาติให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยความสามัคคี
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานประกอบพิธีประดับเครื่องหมายว่าที่ร้อยตรีให้กับนักศึกษาวิชาทหารที่สำเร็จการฝึกวิชาทหารชั้นปีที่ 5 ประจำปี 2558 พร้อมกับคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ โดยในปีนี้มีทั้งสิ้น 1553 คน เป็นชาย 723 คน หญิง 830 คน
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งยศเป็นว่าที่ร้อยตรีถือว่าเป็นกำลังพลสำรองในระดับผู้บังคับบัญชา มีสิทธิ์และหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติเช่นเดียวกับทหารกองหนุนประเภทอื่น ๆ สามารถแต่งเครื่องแบบทหารในโอกาสต่าง ๆ ได้ เช่น พระราชพิธี พิธีสำคัญของทางราชการ การถูกเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหารและในโอกาสสำคัญต่าง ๆ
ในโอกาสเดียวกันนี้ หน่วยบัญชาการกำลังสำรอง ได้รวบรวมเงินจากศูนย์ฝึกวิชาทหารกับนักศึกษาวิชาทหารจำนวนกว่า 2 ล้านบาท ให้กับ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เพื่อสมทบทุนการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์
ผบ.ทบ.กล่าวให้โอวาทว่าที่ร้อยตรีนศท.
พลเอก อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก กล่าวให้โอวาทในพิธีประดับเครื่องหมายยศ ว่าที่ร้อยตรีให้กับนักศึกษาวิชาทหาร โดยได้ชื่นชมนายทหารใหม่ทุกคนที่มุ่งมั่นตั้งใจฝึกอบรมด้วยความอุตสาหะ อดทน จนสำเร็จตามหลักสูตร และมีความพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของกองทัพในการรักษาความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติในอนาคต ซึ่งการที่ทุกคนสมัครใจเข้ารับการฝึกวิชาทหาร แสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้มีจิตสำนึกรับผิดชอบในหน้าที่ต่อประเทศชาติ และมีความมุ่งมั่นตั้งใจสร้างสรรค์ประโยชน์ให้เกิดแก่สังคมส่วนรวม โดยตลอดระยะเวลาที่เข้ารับการฝึกทุกคนได้รับการสร้างเสริมให้มี คุณลักษณะทางทหาร ทั้งร่างกาย จิตใจ ความรู้และความสามารถ เพื่อให้สามารถเป็นกำลังพลสำรองดีมีคุณภาพและประสิทธิภาพของกองทัพ ที่จะมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงของชาติ ซึ่งนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกคนคือส่วนหนึ่งของกองทัพบกที่จะต้องเสียสละ กำลังกายกำลังใจ ร่วมปฏิบัติงานสนับสนุนกำลังรบหลัก และมีความพร้อมที่จะรับใช้ชาติในทุก ๆ ด้าน เมื่อยามที่ประเทศชาติและประชาชนต้องการ
ทั้งนี้ การที่บุคคลได้รับเครื่องหมายยศเป็นนายทหารสัญญาบัตร นับเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง นอกจากจะยืนยันถึงความพร้อมและความเชี่ยวชาญทางด้านการทหารแล้ว ยังแสดงถึงความรับผิดชอบ ที่พึงมีต่อกองทัพและประเทศชาติ ในฐานะที่เป็นทหารคนหนึ่ง จึงจะต้องปฏิบัติหน้าที่โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญมีส่วนร่วมในการสร้างเสริมศักยภาพให้กับกองทัพ พร้อมกับช่วยกันนำพาสังคมและประเทศชาติให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความเข้มแข็ง มั่นคง มีความรัก ความสามัคคีและความสงบสุข