จีนอ้างเกิดการต่อสู้ระหว่างส่งตัว อุยกูร์จากไทย ขณะที่ไทยปฏิเสธไม่มีการใช้ความรุนแรง

จากรายงานของรอยเตอร์ส รัฐบาลเขตปกครองตนเองซินเจียงอ้างว่า ชาวอุยกูร์บางส่วนจากจำนวน 109 คน ที่ถูกส่งตัวจากไทยไปจีนเมื่อเดือนที่ผ่านมา ได้ทำร้ายตำรวจของทั้งไทยและจีน ระหว่างถูกส่งตัวขึ้นเครื่องบินกลับไปยังซินเจียง เนื่องจากชาวอุยกูร์เหล่านี้เชื่อว่าตนเองจะถูกประหารหากเดินทางกลับ

รัฐบาลซินเจียงกล่าวว่า มีข่าวลือแพร่สะพัดในบรรดาผู้อพยพชาวมุสลิมอุยกูร์ที่รอถูกส่งตัวกลับว่า พวกเขาอาจถูกจับไปประหารเมื่อเดินทางถึงซินเจียง โดยอ้างว่าผู้ปล่อยข่าวลือมีเจตนาที่จะใช้เรื่องราวดังกล่าวปลุกปั่นบรรดาผู้อพยพ ให้เข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ไทยและจีน

ชายรายหนึ่งซึ่งปรากฏชื่อในรายงานของจีนว่า นายกูดูซี โตฮูติยูซูฟู ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะขณะถูก "กำราบ" ที่สนามบิน ซึ่งรายงานอ้างว่าเขารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นระหว่างการเดินทางกลับ พร้อมกล่าวชมเจ้าหน้าที่ว่าดูแลเขาเป็นอย่างดี

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยกลับอ้างว่า กระบวนการส่งตัวชาวอุยกูร์มิได้เกิดเหตุรุนแรงแต่อย่างใด

"เราได้ตรวจสอบดูแลด้านความปลอดภัยแก่บรรดาผู้อพยพทั้ง 109คน ซึ่งเราสามารถพูดได้ว่าไม่มีการใช้กำลังทางกายภาพ หรือการบังคับเกิดขึ้นแต่อย่างใด" นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวกับรอยเตอร์ส

ทั้งนี้ สื่อต่างประเทศถูกจีนปฏิเสธมิให้เข้าพบบรรดาผู้อพยพชาวอุยกูร์ตั้งแต่เดินทางกลับถึงประเทศจีน และสื่อไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้โดยปราศจากการควบคุมถึงสภาพของบุคคลเหล่านี้ และไม่อาจตรวจสอบข้อมูลของรัฐรวมถึงสื่อของรัฐบาลได้

รัฐบาลปักกิ่งได้โจมตีกลุ่มนักรบอิสลามว่าเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงในเขตซินเจียงในช่วงตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยราย และกลุ่มผู้ค้ามนุษย์ยังหลอกลวงให้ชาวอุยกูร์หลบหนีออกจากจีนเพื่อไปร่วมรบกับกลุ่มก่อการร้ายในอิรักและซีเรีย

สื่อของรัฐบาลจีนอ้างว่าในบรรดาผู้อพยพที่ถูกส่งตัวจากไทยมีอย่างน้อย 13 คน ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีก่อการร้าย และยังเผยแพร่ภาพขณะควบคุมตัวผู้อพยพเหล่านี้บนเครื่องบินโดยใช้ถุงดำคลุมหัวของพวกเขาไว้

ขณะที่สภาอุยกูร์โลก โดยโฆษกดิลซัท ราซิท กล่าวว่า จีนได้ "ผูกขาด" ข้อมูลเกี่ยวกับการส่งตัวชาวอุยกูร์ และใช้โฆษณาชวนเชื่ออย่างหนักหน่วงเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากโลกภายนอกที่แสดงความเป็นห่วงต่อชะตากรรมของผู้อพยพเหล่านี้