สุเทพย้ำปฏิรูปก่อนลต.เคลื่อนไหวเปิดเผยอย่ากังวล

'สุเทพ เทือกสุบรรณ' ย้ำปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เคลื่อนไหวเปิดเผย ขออย่ากังวล พร้อมยืนยัน ไม่หวนกลับพรรคประชาธิปัตย์
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานคณะกรรมการมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ย้ำเจตนารมณ์เดิมที่ร่วมต่อสู้กับมวลมหาประชาชน คือ ต้องปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง พร้อมร่วมขับเคลื่อนกับทุกกลุ่มนำไปสู่ความสมัครสมานสามัคคี บ้านเมืองจะเดินหน้าต่อไปได้ ขณะเดียวกัน กล่าวถึงการปฏิรูปการเมือง ต้องปฏิรูปพรรคการเมืองก่อน เพื่อให้ประชาชนรู้สึกเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง ซึ่งการเดินหน้าทำงานของมูลนิธิ วันนี้ ถือเป็นการชี้แจงวัตถุประสงค์ ทำให้หลายฝ่ายคลายความกังวลได้ เพราะการเคลื่อนไหวเป็นไปแนวทางเปิดเผย ยึดกติกาบ้านเมือง ส่วนกรณีหากคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และสภาปฏิรูปแห่งชาติ มีการบัญญัติแนวทางปฏิรูปที่ไม่สอดคล้องกับทางมูลนิธิฯ จะส่งตัวแทนยื่นหนังสือเสนอความคิดเห็น แต่จะไม่นำมวลชนบุกสถานที่ราชการ หรือปักหลักชุมประท้วง
นอกจากนี้ นายสุเทพ ยืนยันอีกว่า มูลนิธิฯ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ และตนเองก็จะไม่กลับไปเล่นการเมืองอีก ดังนั้น ทิศทางอาจไม่ตรงกัน เพราะยึดประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่นักการเมือง
'สุเทพ' แจง ผลการทำงานมูลนิธิฯที่เริ่มแล้ว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานคณะกรรมการมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย กล่าวถึงภารกิจของมูลนิธิฯ ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว คือ การดูแลช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต หรือได้รับผลกระทบจากการออกมาช่วยชาติที่ผ่านมา โดยนำเงินบริจาคมาบริหารจัดการ และจะติดตามความเป็นอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนรัฐบาลจะมีนโยบายช่วยเหลือหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ขณะเดียวกัน ได้รณรงค์ให้ประชาชนตระหนักในคุณค่าวัฒนธรรมของไทย โดยเฉพาะการบวช ซึ่งได้เข้าไปฟื้นฟู ช่วยกันปลุกระดมให้ชาวพุทธเห็นความสำคัญของการบวช ผ่านโครงการบรรพชาอุปสมบท เพื่อปฏิบัติธรรม ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สามารถบวชไปแล้ว 689 รูป มาจาก 58 จังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้ แนวทางที่จะดำเนินการต่อในการเร่งผลัก
ดันการศึกษาให้ผลิตบุคลากรมีคุณภาพ ทำงานเพื่อประเทศ การเตรียมจัดตั้งวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ ซึ่งเป็นสถาบันต้นแบบควบคู่ธรรมะ ที่เกาะสมุย รวมถึงการสร้างชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง ที่ เกาะพะลวย จังหวัดสุราษฎร์ธานี'จตุพร' อยากฟังจุดยืนทางการเมือง 'สุเทพ'
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กล่าวถึงกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. อนุญาตให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานกรรมการมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย แถลงข่าววันนี้ โดยส่วนตัวเห็นว่า ไม่ควรห้าม นายสุเทพ พูดเรื่องการเมือง เพราะต้องการฟังจุดยืน และอุดมการณ์ทางการเมืองของ นายสุเทพ และเชื่อว่า กปปส. เอง ต้องการฟังคำอธิบายจาก นายสุเทพ เช่นกัน หลังจากรับปากว่าจะเดินหน้าปฏิรูปประเทศ แต่มาถึงวันนี้ยังไม่มีการปฏิรูปแบบเป็นรูปธรรมดังเช่นเคยสัญญาไว้กับมวลมหาประชาชน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเชื่อว่า มวลมหาประชาชนเริ่มตาสว่างแล้ว ว่า ไม่ได้รับชัยชนะจริง ตาม นายสุเทพ ขายฝัน แต่ต่างทุกข์ระทมจากปัญหาเศรษฐกิจ เรียกว่า “หน้าชื่นตาบาน แต่อกระทม” พร้อมตั้งคำถามไปยัง คสช. ว่า การที่ นายสุเทพ แถลงจุดยืนโดยระบุว่า จะร่วมงานกับรัฐบาล และ คสช. เพื่อปกป้องคนที่ร่วมต่อสู้กันมานั้น เป็นการแสดงความเห็นทางการเมืองหรือไม่ รวมทั้ง ถาม นายสุเทพ ว่า จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร และจะร่วมมืออะไรกับรัฐบาล สำหรับการคัดค้านกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 จากสุราษฎร์ธานี ไปยัง จังหวัดภูเก็ต นั้น นายจตุพร ตั้งคำถามไปยัง นายสุเทพ ว่า เหตุใดถึงไม่ระงับยับยั้งตอนที่เคยดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สมัยที่เป็น รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เพราะมติการย้ายกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2551
'กษิต' แจงปฏิรูปเป็นสัญญาที่ให้ไว้กับ ปชช.
นายกษิต ภิรมย์ หัวหน้าทำงานด้านต่างประเทศของมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย กล่าวว่า เหตุผลที่ต้องชี้แจงอย่างแรก คือ เหตุใดมูลนิธิฯ ต้องเข้ามาขับเคลื่อนการปฏิรูป เพราะการปฏิรูปถือเป็นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนจากกลุ่ม กปปส. ส่วนปัญหาของไทย กับต่างประเทศ เช่น กรณีปัญหาค้ามนุษย์ อยู่ในระดับ เทียร์ 3 หรือ รายงานของสหประชาชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นปัญหามากว่า 20 ปีแล้ว เป็นที่แน่นอนว่า ควรแก้ปัญหาได้มากกว่านี้ เนื่องจาก รัฐบาลมีอำนาจมากมาย ทั้งการใช้มาตรา 44 ที่สั่งการได้เต็มที่ แต่งานของมูลนิธิฯ จะมุ่งแต่เฉพาะประเด็นปฏิรูป หรือเสนอแนวทาง ความเห็นเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา ขณะที่ความตั้งใจการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง นั้น ถือเป็นประเด็นหนึ่ง และต้องทำความเข้าใจด้วยว่า ที่เรามีปัญหามา มีการประท้วง 12 ปี จนรัฐบาลทหารเข้ามาแทรกแซงนั้น เป็นเพราะปัญหาอะไร และหากจะปฏิรูป ต้องดำเนินอย่างไร โดยทั้งหมดจะทำรูปแบบเอกสาร หรือเป็นลายลักษณ์อักษร รวบรวมไว้
เผย12ชื่อกรรมการมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขานุการคณะกรรมการมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย กล่าวถึง 4 วัตถุประสงค์ของมูลนิธิ ได้แก่ สนับสนุนงานวิจัย รายงานการศึกษา ที่มีองค์ความรู้เกี่ยวกับการปฏิรูปในทุกด้าน การติดตามศึกษาข้อมูลสถานการณ์ประเทศ เป็นระยะ การดำเนินการเพื่อสาธารณประโยชน์ และการส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมกันนี้ ยังเปิดเผยรายชื่อคณะทำงานของมูลนิธิ จำนวน 12 คน ดังนี้
1.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานกรรมการ
2.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รองประธานกรรมการ
3.นายวิทยา แก้วภราดัย รองประธานกรรมการ
4.นายอิสสระ สมชัย รองประธานกรรมการ
5.นายถาวร เสนเนียม รองประธานกรรมการ
6.นายชุมพล จุลใส กรรมการ
7.นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ กรรมการ
8.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการ
9.นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการ
10.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ กรรมการ
11.นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขานุการกรรมการ
12.นางสาวจิตภัสร์ กฤดากร ผู้ช่วยเลขานุการกรรมการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง ::::
สุเทพแถลงตั้งมูลนิธิมุ่งปฏิรูปยึด กม. พร้อมร่วมมือคสช.
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=635590