คำรณวิทย์ถึงไทยแล้ว งดคุยสื่อ จนท.คุมเข้ม

'พล.ต.ท.คำรณวิทย์' มาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว โดยไม่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อ และเดินทางออกไปในทันที จนท.ตำรวจ อีโอดี และสุนัขตำรวจ จำนวนหนึ่ง มาดูแลความเรียบร้อย

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางจากประเทศญี่ปุ่น มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 641 เมื่อเวลา 15.30 น.ที่ผ่านมา โดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้ผ่านขั้นตอน ตรวจคนเข้าเมืองตามปกติ ไม่ได้รับอภิสิทธิ์พิเศษ แต่อย่างใด และเมื่อผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองแล้ว พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้เดินออกมาช่องทางประตู 5 และทันทีที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ออกมาถึงบริเวณประตูทางออกที่ 5 ได้มีเจ้าหน้าที่ ให้การดูแลความเรียบร้อย และพาไปยังรถที่จอดรออยู่ โดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด และจะมีการนัดหมาย ให้สัมภาษณ์ ในโอกาสต่อไป

ส่วนบรรยากาศที่สนามบินสุวรรณภูมิ ได้มีกองทัพสื่อมวลชน มาปักหลักรอทำข่าว พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กันตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ขณะที่การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุวรรณภูมิ อีโอดี และสุนัขตำรวจ จำนวนหนึ่ง มาดูแลความเรียบร้อย โดยไม่มีความวุ่นวายใดๆ เกิดขึ้น

สำหรับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ถูกตำรวจญี่ปุ่นจับกุมในข้อหาพกพาอาวุธปืนในสนามบินนาริตะ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะกำลังจะเดินทางกลับประเทศไทย และถูกคุมตัวดำเนินคดี ก่อนที่อัยการญี่ปุ่นจะมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง และปล่อยตัวเมื่อวานที่ผ่านมา รวมเวลาอยู่ที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ อยู่ในประเทศญี่ปุ่นนาน 23 วัน และเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันนี้

อย่างไรก็ตาม วันนี้ที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้เรียกประชุมนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือในการสอบถาม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ถึงการนำปืนขึ้นเครื่องออกนอกประเทศไปได้อย่างไร ตามคำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

โดย พล.ต.ท.อำนวย กล่าวว่า ได้ตั้งคณะทำงานสอบสวนเรื่องอาวุธปืนของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา ซึ่งจากนี้จะทำหนังสือไปยังพนักงานอัยการฝ่ายต่างประเทศ เพื่อทำเรื่องไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ประสานไปยังสถานทูตไทยประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ประสานไปยังอัยการญี่ปุ่นขอข้อมูลที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้ไปให้การไว้ คาดว่าจะใช้เวลาในการประสานจนได้ข้อมูลประมาณ 1 สัปดาห์

พร้อมกันนี้ เตรียมเชิญ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ มาให้ข้อมูลเรื่องปืน โดยจะเน้นสอบถามในประเด็นที่มาของปืนดังกล่าวว่าได้มาอย่างไร เพราะทราบมาว่าเป็นปืนไม่มีทะเบียน