กปปส. พร้อมสู้คดีปิดประตูเขตดินแดง
ทนายความ แนวร่วม กปปส. คดีปิดเขตดินแดง เตรียมยื่นอุทธรณ์คดี แต่ก็พร้อมสู้ในทุกชั้นศาล
นายวิโรจน์ ภูมิศิริสวัสดิ์ ทนายความ กล่าวภายหลังที่ศาลอาญา มีคำพิพากษายกฟ้อง คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายนวการ ขอนศรี และ นายประเสริฐ ด้วงทิพย์ ผู้ชุมนุม กปปส. เป็นจำเลยที่ 1-2 ในฐานขัดขวางผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 57 จำเลยได้นำมวลชน เข้าปิดประตูทางเข้า-ออกของสำนักงานเขตดินแดง เพื่อไม่ให้สามารถจ่ายหีบเลือกตั้ง ทำให้ผู้ใช้สิทธิ์ไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้ เหตุเกิดที่แขวง-เขตดินแดง กรุงเทพฯ 2 ผู้ชุมนุมร่วม กปปส. คดีขัดขวางการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ศาลได้วินิจฉัยว่าศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยว่าการชุมนุมของ กปปส. เป็นการชุมนุมโดยสิทธิเสรีภาพโดยชอบด้วยกฎหมาย ส่วนที่มีการกล่าวหาผู้ชุมนุมขัดขวางการเลือกตั้งนั้น ศาลเห็นว่าหากจะให้มีการจัดการเลือกตั้งจริง ๆ เจ้าหน้าที่ก็สามารถดำเนินการให้มีการเลือกตั้งต่อไปได้ และในข้อเท็จจริงจำเลย กับพวก ประมาณ 30-50 คน ก็ไม่ได้มีการข่มขู่หรือทำร้ายเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด จึงเป็นการชุมนุมตามสิทธิ์รัฐธรรมนูญ
นายวิโรจน์ ทนายความ กล่าวอีกว่า คาดว่าอัยการโจทก์คงจะยื่นอุทธรณ์คดีต่อเพราะคดีที่มีพฤติการณ์กล่าวหาผู้ชุมนุม กปปส. กระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งฯ ยังมีอีกร่วม 10 สำนวน ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ อาทิ เขตบางซื่อ หากอัยการไม่อุทธรณ์ผลคำวินิจฉัยก็อาจเป็นบรรทัดฐานในคดีอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการขัดขวางการเลือกตั้ง แต่เราก็ไม่รู้สึกกังวลหนักใจ พร้อมจะสู้คดีต่อไปทุกชั้นศาล และเราจะนำแนวทางที่ศาลอาญาได้วินิจฉัยคดีนี้ ไปนำสืบประกอบคดีขัดขวางการเลือกตั้งสำนวนอื่น ๆ ด้วย ส่วนคดีหลักที่แกนนำ กปปส. ถูกยื่นฟ้องฐานเป็นกบฏนั้น ส่วนหนึ่งก็มีการกล่าวหาพฤติการณ์นำพาผู้ชุมนุมขัดขวางการเลือกตั้งด้วย ดังนั้น เราจะนำสืบแนวทางวินิจฉัยครั้งนี้ ไปใช้นำสืบต่อสู้คดีเช่นกันด้วย