โตโน่แถลงขอโทษทำแตงโมคิดสั้นอุบสาเหตุเลิก

โตโน่แถลงขอโทษทำแตงโมคิดสั้นอุบสาเหตุเลิก

โตโน่แถลงขอโทษทำแตงโมคิดสั้นอุบสาเหตุเลิก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่ม 'โตโน่' แถลงข่าว ขอโทษ ทำ 'แตงโม' คิดสั้น รับเลิกกันแล้ว 2 เดือน อุบสาเหตุ วอนอย่าขุดคุ้ย โล่งฝ่ายหญิงปลอดภัย บอกคิดน้อยพูดโสดในคอนเสิร์ต ลั่นยังรักแต่ไม่พร้อมรีเทิร์น

ดารานักแสดงหนุ่มโตโน่ - ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ เปิดใจแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีสาเหตุจบความสัมพันธ์กับอดีตคู่หมั้นสาวแตงโม - ภัทรธิดา หลังจากที่แยกกันอยู่มาซักระยะ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ทางหนุ่มโตโน่ออกมาเคลียร์ทุกประเด็นที่เกิดขึ้นหลังจากที่ฝ่ายหญิงผิดหวังกับความรักจนตัดสินใจทานยานอนหลับเกินขนาดหวังจบชีวิต "ก็พวกพี่ถามผมดีกว่าครับ หลังจากที่เห็นการแถลงข่าวเมื่อวาน ก็ดีใจที่เขาปลอดภัยดีครับ ครับ ผมโทรไปคุยกับผู้จัดการของโม และโทรไปหาคุณพ่อครับ ก่อนหน้านั้นเวลาที่ทะเลาะกัน ผมคิดว่าบางทีเป็นเรื่องธรรมดาเวลาทะเลาะกัน เวลาเราเลิกกันเราไม่ได้ไปอยู่ตรงนั้น ไม่รู้ว่าเขาอะไร ผมรู้ข่าวตอนทุ่มนึง เห็นถาพจากข่าวและอินสตราแกรม เห็นภาพแล้วก็เป็นห่วงครับ จริง ๆ แล้วมันเป็นเรื่องที่เริ่มมาจากความรัก เป็นเรื่องถ้าย้อนเวลากลับไปผมก็จะรัก คนสองคนพยายามจะทำให้มันดี พอวันนึงที่ต้องจบไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม มันก็มีคนเสียใจ พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา มันก็ไม่มีใครมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นตัวโม ผม คุณพ่อ ถ้าคนคิดว่าทุกอย่างสาเหตุมาจากผม ครับ ก็ขอโทษครับ ไม่ว่าด้วยเรื่องอะไรก็ตามแต่ ถ้ามันทำให้กระทบต่อความรู้สึกของโม หรือใครก็ตาม ผมผิดเอง คือสองเดือนเนี่ยตกลงว่าเลิกครับ มีการไปพบกับบาทหลวง พาคุณพ่อ คุณแม่ผม ไปคุยกันเรียบร้อยแล้ว ตลอดระยะเวลาที่เลิกกันไป มีบ้างที่โมส่งข้อความมา บางข้อความผมก็ตอบ บางข้อความก็ไม่ได้ตอบ สถานะก็เลิกครับ สำหรับข้าวของเราเคยบอกว่าจะให้เข้าไปเอาตอนไหน ก็บอกได้เลยนะ แต่ผมเข้าใจสภาพจิตใจของทั้งผมและโมครับ ที่ต้องกลับไปอยู่ในที่ที่เราเคยรัก พอเขาบอกว่าอย่าเพิ่งเอาไป ใจยังไม่พร้อม เราก็ยังไม่เข้าไปเอาครับ เพราะถ้าไปมันยิ่งทำให้เสียใจครับ สำหรับไลน์ที่เป็นคำมั่นสัญญาระหว่างผม ครับ ผมเคยพูดในคลิปครับ ในไลน์ก็ใช่ครับ เคยคุยครับ อันนี้น่าจะสองปีหรือปีกว่า ๆ ครับ ตอนที่ไปคุยกับบาทกลวงคือไปคุยไปตกลง สาเหตุว่ามาจากอะไร ความรู้สึกของทั้งคู่คืออะไร ให้พ่อแม่ได้รับรู้ ตอนนี้ผมยังเป็นคริสต์ครับ ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนศาสนา ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าศาสนาไหนดีกว่ากัน

คนมีสิทธิ์เลือกว่าจะศรัทธาแบบนั้น สำหรับสาเหตุที่เลิกกัน ผมว่าเราไม่ต้องไปพูดถึงดีกว่า เพราะพูดไปแล้วมันไม่มีประโยชน์อะไรกับในสิ่งที่ผมมานั่งสัมภาษณ์ ผมไม่ได้ต้องการให้ใครมาเข้าใจ ถ้าเขามาสงสารผม แล้วไปว่าโม ผมไม่ต้องการ ส่วนเรื่องกระแสที่ว่าผม ผมเข้าใจครับ ผมอยู่กับมันได้ สำหรับเรื่องกระแสข่าวต่าง ๆ เกี่ยวกับโมโยนข้าวของออกมาจากบ้าน ไม่จริงครับ สองปีที่ผ่านมา ผมไม่จำเป็นต้องพูดว่าเรารักกันมากขนาดไหน ความรักมันยิ่งใหญ่มากกว่าเงินทอง ชื่อเสียง ในสิ่งที่ผมเลือก ตอนที่คบกันโมทำอะไรให้ผมมีความสุขเยอะแนะ พอเราเลิกกัน ผมไม่ได้ต้องการให้ใครมาขุดคุ้ยครับ เรามีแต่อวยพรถ้าเลิกกัน ขอให้มีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต เราอยากให้เป็นแบบนั้น ส่วนตัวเราเองรู้อยู่แล้วว่าคบกันต้องโดนด่า เลิกกันต้องโดนด่านะ ตอนเรารักกันมันไม่มีใครอยากเลิกหรอกครับ แต่มันเกิดขึ้นแล้ว เราต้องรู้ว่าเราต้องลุกขึ้นแบบไหน ผมไม่เคยคิดจะทำร้ายโม ผมเชื่อว่า ไม่ว่าผมจะพูดดียังไง แต่มันต้องมีบางประโยคออกไป แต่เขาต้องเข้มแข็ง จริง ๆ ก่อนหน้านี้ ก็คุยกันครับ มันไม่มีใครที่อยู่ดี ๆ จะเดินออกมาจากชีวิตของคนที่เรารักหรอกครับ หลังจากที่เกิดขึ้นยังไม่ได้คุยครับ เรื่องบล็อกไลน์ ถ้าเขาบอกว่าผมบล็อก ผมคงบล็อกแหละครับ ผมกลับไป ผมกลับไปได้ แต่ไม่ใช่ในฐานะเดิมครับ การที่ห่างออกมาไม่ใช่ผมเกลียดเขา หรือไม่รัก คือเราได้มีการคุยกัน จะรีเทิร์นไหม ในช่วงเวลานี้ ผมคงตอบไม่ได้ครับ มันมีหลายอย่างที่เราต้องดูแลและต้องรับผิดชอบ สำหรับน้องต้องตา คือ หมายความว่าในตอนที่เราเป็นครอบครัวเดียวกัน เขาก็เป็นผู้หญิงสามคนที่เรารักมากที่สุดในชีวิต วันนี้เราเลิกกันไป เราต้องทำให้แม่และน้องสาวผมมีความสุข ผมไม่อยากร้องไห้หน้ากล้อง ไม่อยากให้ใครสงสาร ผมจำเป็นต้องยิ้ม จำเป็นต้องเข้มแข็ง เพื่อให้คนที่อยู่ข้างผมเข้มแข็ง ตอนนี้ เป็นสิ่งที่ผมต้องดูแลหัวใจและความรู้สึกของท่าน ผมยังภูมิใจที่ผมเคยรักเขา

สำหรับเรื่องคอนเสิร์ต ถึงเป็นสคริปผมก็ผิด ผมจะไม่พูดก็ได้ถ้าเป็นสคริป แต่ผมโง่และคิดน้อย เพราะผมเข้าใจว่าเราจบกันไปแล้ว แต่พอมานึกถึงความรู้สึกของเขาผมผิดเต็ม ๆ ผมไม่ควรทำ ยิ่งมีเสียงเฮ ผมเข้าใจว่าเป็นใคร ใครก็เจ็บ แต่พอมันเกิดขึ้นในสถานการณ์จริง มันไม่ใช่แค่เรา ดังนั้น เรื่องนี้ผมผิด เรื่องที่เขาเป็สาเหตุที่ทำให้ครอบครัวผมผิดใจหมองมัวกัน คือคนเรารักกัน ศึกษากัน มันมีทั้งเรื่องดีและไม่ดีครับ แต่ตลอดเวลาที่เราคบกันมา เชื่อไหมว่าไม่มีวินาทีไหนเลยที่ผมไม่เคยได้รับกำลังใจจากทั้งพ่อของโม และแม่ผมครับ ในทุกปัญหาที่ฝ่าฟันกันมา  ที่จริงเรื่องเคลียร์กันใหัจบมันจบนานแล้ว แต่ถ้าเขายังไม่สบายใจ ถ้าผมไปแล้วเขาดีขึ้น ผมจะไป ถ้าเขายังรักและเดินหน้าง้อต่อไป จะมีโอกาสไหม ในตอนที่เรา...คือมันไม่ใช่แค่เรื่องของผมนะครับ เวลาที่เราได้จับมือกัน รักกัน ทำให้ดีที่สุด ตอนนี้มันเลยขั้นนั้นไปแล้วครับที่จะกลับไป อยากให้เขานึกถึงคนที่รักเขา คุณพ่อเขา แฟน ๆ เพื่อน ๆ นึกถึงตัวเอง ให้รักคนกลุ่มนี้ให้มาก ๆ เราอยู่ต่างมีหน้าที่ เรามีหน้าที่ทำให้คนมีความสุข ทำหน้าที่ให้เต็มที่"


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook