สุรินทร์แล้งหนักรอบ50ปีน้ำไม่พอทำเกษตร

จังหวัดสุรินทร์แล้งหนักสุดในรอบ 50 ปี น้ำไม่พอทำการเกษตร หากอีก 2 สัปดาห์ฝนยังไม่ตก ต้นข้าวยืนต้นตาย กว่า 3.3 ล้านไร่ แน่
รายรายงานข่าวแจ้งว่า จ.สุรินทร์ ยังคงเกิดสภาวะแห้งแล้งอย่างรุนแรงหนักที่สุดในรอบหลายสิบปี เนื่องจากเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงยาวนาน ทำให้แหล่งน้ำต่างๆ มีปริมาณน้ำน้อยมากไม่เพียงพอต่อการทำการเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่ทำนา จำนวน 3,329,919 ไร่ เริ่มได้รับผลกระทบหนักเป็นบริเวณกว้าง เพราะขาดน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว และกำลังยืนต้นตาย และบางพื้นที่พบว่าต้นข้าวยืนต้นแห้งตายแล้วเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ที่พบว่าชาวนาต่างได้รับความเดือนร้อน ต้องหนีตายด้วยการปลูกต้นมันสำปะหลังตามคันนา เพื่อหารายได้มายังชีพแทน และคาดว่าอีกประมาณ 2 สัปดาห์ นับแต่วันนี้ไป ถ้ายังไม่มีฝนตกลงมา นาข้าวคงจะต้องแห้งตายไม่เหลือแม้แต่ต้นเดียวอย่างแน่นอน
สำหรับ จ.สุรินทร์ มีพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ง ซึ่งเป็นที่ประสบภัยแล้งซ้ำซากจำนวน17 อำเภอ 120 ตำบล 540 หมู่บ้าน ปัจจุบันจังหวัดได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน(ภัยแล้ง) จำนวน 1 อำเภอ คือ อำเภอท่าตูม จำนวน 2 ตำบล 15 หมู่บ้าน (คิดเป็นร้อยละ9.09 ของพื้นที่ทั้งหมดของจังหวัด) ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค จำนวน 2,225 ครัวเรือน (ร้อยละ 10.55 ของครัวเรือนทั้งหมด) 8,941 คน ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่สิ้นสุด
ขณะที่นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ สั่งกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นติดตามสถานการณ์ และเร่งการช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด โดยจังหวัดสุรินทร์มีพื้นที่การเกษตรทั้งหมดของจังหวัด ประมาณ 3,879,443 ไร่หรือ ร้อยละ 76.40 ของพื้นที่ของพื้นที่จังหวัด