คลิปนาทีพินาศ รถเมล์สาย 77 ซิ่งชนกระบะเสยเก๋ง
จากกรณีวานนี้ (4 ก.ค.) รถเมล์โดยสารปรับอากาศสาย 77 สีฟ้าขาว ทะเบียน 12-2979 กรุงเทพฯ ทะเบียนข้างรถ 4-4072 ซึ่งเป็นรถเสริมพิเศษ สายหมอชิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ประสบอุบัติเหตุวิ่งข้ามเกาะกลางถนน บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 หน้าขนส่งหมอชิตใหม่ มุ่งหน้าทางต่างระดับรัชวิภา
โดยพุ่งชนรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน 4ธ 7832 กรุงเทพฯ และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กธ 6878 นครราชสีมา ซึ่งขับอยู่อีกฝั่ง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บภายในรถเมล์คันดังกล่าวจำนวน 18 ราย โดย 7 รายมีอาการสาหัส รวมทั้งคนขับรถเมล์และพนักงานเก็บค่าโดยสารด้วย และทำให้สภาพการจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดอย่างหนัก
หลังจากนั้นมีการเผยแพร่คลิปขณะเกิดเหตุสั้นๆ 0.08 นาที จากกล้องหน้ารถคันหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ แต่เผยให้เห็นนาทีระทึกที่รถเมล์พุ่งข้ามเกาะกลางถนนมาเสยรถเก๋งสีดำ
นางปราณี ศุกระศร รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) กล่าวถึงการเกิดอุบัติเหตุรถเมล์สาย 77 พุ่งข้ามเกาะชนรถกระบะวีโก้ บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 หน้าขนส่งหมอชิต 2 ย่านจตุจักร ว่า รถเมล์สายดังกล่าวเป็นรถของขสมก. และจากการที่เห็นสภาพรถที่เกิดอุบัติแล้วถือว่าเป็นอุบัติที่ร้ายแรงที่สุดตั้งแต่ตนทำหน้าที่รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการขสมก.มา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น
และตนได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพนักงานขับรถคันดังกล่าว โดยหากพบว่ามีพฤติกรรมที่ประมาทเลินเล่อจนให้เกิดความเสียหายทั้งต่อทรัพย์สินและชีวิตของบุคคลอื่นก็จะได้รับโทษสูงสุดคือไล่ออก โดยจะรู้ผลภายใน 5-7 วันต่อจากนี้
นางปราณี กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนได้กำชับทั้งผู้บริหารและพนักงานให้ความสำคัญกับการให้บริการประชาชนโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นหลัก แต่ก็ยอมรับว่ายังมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเป็นระยะๆ เช่น ขับเฉี่ยวชนกัน เบียดกัน แต่ไม่ร้ายแรงเท่าเหตุการณ์นี้ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วทางขสมก. จะรับผิดชอบผู้ที่บาดเจ็บอย่างเต็มที่ และไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีก โดยจะลงโทษให้ถึงที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
สำหรับโทษหากพบว่าขับรถประมาทก็มีทั้งไล่ออกซึ่งร้ายแรงที่สุด, โทษให้ออก, ลดเงินเดือน, ภาคทัณฑ์ แล้วแต่กรณี