เรือชมหิ่งห้อยทำพิษ! บ้านทั้งหลังพังต่อหน้า เจ้าของได้เเต่ยืนมอง หลังร้องเรียนมา 3 ปี

เรือชมหิ่งห้อยทำพิษ! บ้านทั้งหลังพังต่อหน้า เจ้าของได้เเต่ยืนมอง หลังร้องเรียนมา 3 ปี

เรือชมหิ่งห้อยทำพิษ! บ้านทั้งหลังพังต่อหน้า เจ้าของได้เเต่ยืนมอง หลังร้องเรียนมา 3 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชาวบ้านหนีตายโดดออกมาจากบ้าน ก่อนพังลงน้ำทั้งหลัง ขณะที่ผู้สื่อข่าวเก็บภาพขณะพังลงน้ำได้อย่างทันท่วงที สาเหตุคาดภัยแล้งน้ำน้อยช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงน้ำลงทำให้ตลิ่งรับน้ำหนักบ้านไม่ไหวเลยพังลงมา

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางทัศนี เปี่ยมทอง อายุ 54 ปี ชาวตำบลบางขันแตก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ว่าบ้านของตนกำลังพังลงไปในน้ำ จึงรีบไปตรวจสอบพบบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ รวม 2 หลัง กำลังไหลลงแม่น้ำแม่กลองทั้ง 2 หลัง มี นางทัศนี ยืนมองบ้านของตนเองพังต่อหน้าต่อตา โดยข้าวของเครื่องใช้ยังขนออกมาไม่ทัน

ภายหลังเกิดเหตุ นายยรรยงค์ ฉัตรระทิน ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดสมุทรสงคราม นางสาววาณิชชา โกวิทานนท์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลบางขันแตก เร่งให้ความช่วยเหลือขนข้าวของที่ยังเหลืออยู่ ขณะที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้าตัดไฟฟ้าเพื่อป้องกันอันตรายจากไฟดูด

นางทัศนี กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่หลานรวม 3 คน ก่อนเกิดเหตุตนกำลังนั่งเล่นอยู่ในบ้านตามลำพัง เนื่องจากหลานทั้ง 2 ไปโรงเรียน จู่ๆ ได้ยินเสียงเปรี๊ยะดังสนั่น จึงรีบวิ่งออกมาจากบ้าน กระทั่งบ้านค่อยๆ พังเลื่อนลงน้ำ ตนได้แต่ยืนมอง ข้าวของเครื่องใช้ก็ขนออกมาไม่ทัน

อย่างไรก็ตาม นางทัศนีเชื่อว่าตลิ่งพังเพราะเรือนักท่องเที่ยววิ่งชมหิ่งห้อยกันเป็นจำนวนมาก ตนเคยร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากหลายหน่วยงานมานานกว่า 3 ปีแล้ว แต่ไม่มีใครเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว กระทั่งบ้านพังลงในวันนี้จะมีใครยื่นมือเข้ามาช่วยบ้าง ซึ่งจากนี้ไปตนยังไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน และจะไปฟ้องร้องจากใคร

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะมาจากเรือนักท่องเที่ยวชมหิ่งห้อยวิ่งทำให้คลื่นซัดตลิ่งพังประกอบกับภัยแล้งน้ำน้อยช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงน้ำลงทำให้ตลิ่งรับน้ำหนักบ้านไม้ไหวเลยพังลงมาก็เป็นได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook