ทอท.โชว์CCTVตรวจคำรณวิทย์ไม่พบปืนยันมีมาตรฐาน

ทอท.โชว์CCTVตรวจคำรณวิทย์ไม่พบปืนยันมีมาตรฐาน

ทอท.โชว์CCTVตรวจคำรณวิทย์ไม่พบปืนยันมีมาตรฐาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เผย ภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เดินทางออกนอกประเทศ ยันไม่พบสิ่งผิดปกติ จนท. และเครื่องตรวจ มีมาตรฐานพร้อมใช้งาน ปืนอาจไม่ได้มาจากไทย-เร่งสอบ

นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชี้แจงถึงกรณีที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวที่ท่าอากาศยานนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น ในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง ขณะเดินทางกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมา ว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้เดินทางมายังสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน นำกระเป๋าติดตัวมาทั้งหมด 3 ใบ นำติดตัวขึ้นเครื่อง 2 ใบ และโหลดใต้ท้องเครื่อง 1 ใบ ยืนยันว่า ได้มีการตรวจสัมภาระ และตรวจร่างกาย อย่างละเอียดแล้ว โดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้ให้ความร่วมมืออย่างดี ไม่ได้มีอภิสิทธิ์พิเศษมากกว่าคนทั่วไป

ในส่วนของการตรวจสอบเครื่อง CTX ที่เป็นเครื่องในการตรวจสัมภาระนั้น ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ ชี้ CTX ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทุกเครื่องผ่านมาตรฐานสากลทุกเครื่อง และพร้อมใช้งาน โดยมีมาตรฐานการตรวจสอบเหมือนกันทั่วโลก รวมทั้งพนักงานได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี มีการเปลี่ยนพลัดตรวจค้นทุกๆ 20 นาที

พร้อมทั้งมีการเปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดในสนามบิน ขณะที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เดินทางออกนอกประเทศ ทั้งกระบวนการ การตรวจค้นต่างๆ ก็พบว่าปกติดีทุกอย่าง แต่ภาพสแกนกระเป๋านั้นไม่สามารถนำมาแสดงได้ เนื่องจากถ้าเป็นภาพที่ไม่ผิดปกติเครื่องจะทำการเก็บข้อมูลไว้เพียง 3 วันเท่านั้น

 

ทอท. เผยปืน คำรณวิทย์ อาจไม่ได้มาจากไทย-เร่งสอบ

นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชี้แจงถึงกรณีที่ ล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาลหลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวที่ท่าอากาศยานนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น ในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง ขณะเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ว่า จากกรณีดังกล่าวไม่ได้มีการประสานไปยังประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งประเทศญี่ปุ่นเองก็ไม่ได้ประสานมายังท่าอากาศยานแต่อย่างใด มีเพียงทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ติดต่อขอข้อมูลเท่านั้น

ซึ่งขณะนี้ก็ยังหาสาเหตุของกรณีดังกล่าวไม่ได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งอาวุธปืนดังกล่าวอาจจะไม่ได้นำออกไปจากประเทศไทยก็เป็นได้ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้ง

โดยหลังจากนี้ก็จะได้เพิ่มมาตรฐานการตรวจสอบมากขึ้น พร้อมเตรียมตั้งคณะทำงาน ขึ้นมาตรวจสอบมาตรฐานและหาแนวทางการป้องกันให้รัดกุมยิ่งขึ้น

ทางด้าน นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว กรรมการผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่าหากจะมีการนำอาวุธปืนขึ้นเครื่องนั้นจะต้องทำเอกสารขออนุญาตล่วงหน้าก่อนการเดินทาง และบอกถึงสาเหตุการนำออกไป เพื่อจะได้ประสานไปยังสนามบินปลายทางว่ามีอาวุธเข้าประเทศ และจะต้องแยกกระสุนปืนและตัวเครื่องออกจากกัน ก่อนจะนำโหลดลงใต้เครื่อง ยืนยันกรณีของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ไม่ได้มีการขออนุญาตหรือแจ้งให้ทางท่าอากาศยานทราบถึงการนำปืนออกนอกประเทศ

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook