นายกฯย้ำไม่มีปฏิวัติซ้อนยันยึดโรดแมปไม่อยากอยู่ในอำนาจ

นายกฯย้ำไม่มีปฏิวัติซ้อนยันยึดโรดแมปไม่อยากอยู่ในอำนาจ

นายกฯย้ำไม่มีปฏิวัติซ้อนยันยึดโรดแมปไม่อยากอยู่ในอำนาจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษการประชุมทางวิชาการระหว่างประเทศป้องกันและปราบปรามการทุจริต ย้ำ ไม่มีปฏิวัติซ้อน ยืนยัน ยึดตามโรดแมป ไม่อยากอยู่ในอำนาจ ลุยปราบทุจริตและสร้างจิตสำนึกให้เยาวชน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวปาฐกถาพิเศษในการประชุมทางวิชาการระหว่างประเทศ ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ครั้งที่ 3 ว่า การทุจริตเป็นปัญหาสำคัญของสังคมโลก ที่ผ่านมาภาครัฐมีการแก้ไขปัญหาทุจริตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องเอาจริงเอาจังมากขึ้น  โดยทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน อีกทั้ง ต้องมีหลักฐานเชิงประจักษ์ ซึ่งการดำเนินการประชาชนต้องได้รับประโยชน์และเป็นศูนย์กลาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆ รวมถึงเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ และต้องไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้นอีก  อีกทั้งต้องสร้างจิตสำนึก ตั้งแต่ระดับเยาวชนให้โตไปไม่โกง ทั้งนี้ รัฐบาลจะสร้างความเข้มแข็งในทุกมิติ ซึ่งขอให้เข้าใจ และต้องดูแลให้ประชาชนเท่าเทียมโดยใช้กฎหมาย เนื่องจากความเหลื่อมล้ำเป็นบ่อเกิดของปัญหา อย่างไรก็ตามต้องหยุดผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ซึ่งพร้อมจะให้ความเป็นธรรม

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลดำเนินทุกอย่างตามโรดแมปในรัฐธรรมนูญและตนไม่ได้อยากอยู่ในอำนาจ พร้อมเชื่อว่า ไม่มีเรื่องการปฏิวัติซ้อนตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด และเห็นว่า ทหารไม่มีปัญหาเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย

 

ผบ.ตร.ยันรู้ตัวคนโพสต์ข้อความปฏิวัติซ้อนแล้ว

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ทราบตัวบุคคลที่โพสต์ข้อความปฏิวัติซ้อนแล้ว มาจากเว็บไซต์ชื่อว่า แดงดีดีดอทคอม ซึ่งตัวบุคคลนี้อยู่ที่ต่างประเทศ แต่ไม่ขอพูดถึงว่าบุคคลดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมืองหรือไม่ พร้อมเผยว่า เสนอฝ่ายความมั่นคงและรัฐบาลถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทย ต้องนำระบบ Single Gateway มาใช้ เนื่องจากระบบดังกล่าวจะสามารถตรวจสอบและคัดกรองข้อมูลที่ไม่ต้องการได้ อาทิ หากมีภาพไม่เหมาะสม หรือข้อความที่ไม่ต้องการระบบจะลบข้อมูลทิ้งทันทีเมื่อตรวจเจอ เพราะที่ผ่านมา เราใช้วิธีแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ อาทิ การไปไล่ปิดเว็บไซต์ ซึ่งผู้ที่มีเจตนาโพสต์ ก็จะเปลี่ยนชื่อเว็บไซต์เปิดออกมาได้อีกเรื่อยๆ

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ศึกษาเชี่ยวชาญเรื่องระบบนี้ไปศึกษา โดยทางรัฐบาลอาจจะมอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที เป็นเจ้าภาพดูแล สำหรับระบบดังกล่าว จะใช้งบประมาณ 1 พันล้านบาท


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook