อลงกรณ์เชื่อหากปลดล็อกแล้วสปช.อิสระมากขึ้น
'อลงกรณ์' เชื่อ หากปลดล็อกแล้ว สปช. มีอิสระในการใช้ดุลพินิจมากขึ้น ฝากสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และ รบ.สานงานต่อ
นายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. เปิดเผยกับ สำนักข่าว INN จากกรณีที่รัฐบาลเสนอขอแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว ที่กำหนดให้ สปช. สิ้นสุดการทำหน้าที่ทันทีเมื่อลงมติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเสร็จเรียบร้อย ว่า สปช. จะมีความเป็นอิสระในการลงมติร่างรัฐธรรมนูญมากขึ้น เพราะก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว สปช. ถูกจำกัดไว้ด้วยฮาราคีรีโมเดล หากมีมติไม่รับก็ต้องตกไปตามกัน ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจ แต่เมื่อมีการปลดล็อกการจำกัดในส่วนนี้แล้ว เชื่อว่า สปช. จะมีอิสระมากขึ้นในการใช้ดุลพินิจ แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ร่างรัฐธรรมนูญนั้นจะผ่านหรือไม่ผ่าน เพราะร่างรัฐธรรมนูญฉบับสุดท้าย จะถูกส่งมายัง สปช. ในวันที่ 21 สิงหาคม นี้ การจะบอกว่าผ่านหรือไม่ผ่านในขณะนี้ ยังเป็นไปไม่ได้ ซึ่งในช่วงระหว่างวันที่ 21 สิงหาคม - 4 กันยายน จะเป็นช่วงเวลาที่ สปช. จะใช้ดุลพินิจพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ
สำหรับผลการสิ้นอายุการทำงานของ สปช. ก่อนกำหนดนั้น นายอลงกรณ์ ยอมรับว่า อาจจะมีผลบ้างในการตรากฎหมายปฏิรูปด้านต่างๆ เกือบ 40 ฉบับ ซึ่งต้องใช้เวลาและไม่แน่ใจว่าจะทันในวันที่ 4 กันยายน ที่ สปช. จะต้องลงมติร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะไม่มีผลต่อการจัดทำแผนปฏิรูป เพราะแผนปฏิรูปเดิม สปช. ได้วางไว้ตามแผนการทำงานเดิม ซึ่งจะให้เสร็จพร้อมร่างรัฐธรรมนูญ และจะได้จัดทำแผนแม่บทเดิมตามกำหนดซึ่งทันแน่นอน พร้อมยืนยันว่า การทำงานที่ผ่านมาของ สปช. นั้น ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว และยังสามารถทำได้ก่อนกำหนด
นอกจากนี้ นายอลงกรณ์ ยังได้ฝากให้สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และรัฐบาลได้สานงานปฏิรูปต่อ โดยระบุว่า รัฐธรรมนูญ จะต้องบัญญัติอำนาจหน้าที่ของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปฯ ให้ชัดเจน เพราะการจะเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างระบบในความหมายการปฏิรูปนั้น จะต้องมีการแก้ไขกฎหมาย และวิธีการยกร่างกฎหมายที่แน่นอน