กรมชลรายงานน้ำในเขื่อนหลักยังมีน้อยหลังฝนตกไม่มาก

กรมชลฯ รายงาน สถานการณ์น้ำในเขื่อนหลัก น้ำต้นทุนยังน้อย อธิบดีกรมชลฯ ยอมรับฝนตกน้อยกว่าปกติ
กรมชลฯ รายงาน สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ล่าสุด (9 มิ.ย. 58) ที่เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำ 4,257 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 32 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 457 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 3,681 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 39 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 831 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 138 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 15 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 95 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 10 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 97 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมทั้ง 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกันประมาณ 1,480 ล้านลูกบาศก์เมตร
โดย นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า “สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา อ่างเก็บน้ำต่างๆ ยังคงมีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แม้จะเข้าสู่ฤดูฝนแล้วก็ตาม เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกในภาคเหนือ และภาคกลาง มีค่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติมาก โดยในพื้นที่ภาคเหนือฝนตกต่ำกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 55 ส่วนพื้นที่ภาคกลาง ฝนตกต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมากถึงร้อยละ 69 ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำน้อย และยังทำให้ปริมาณน้ำที่ใช้ในการเสริมน้ำฝน เพื่อการเกษตรลดน้อยลงด้วย