ชาวนาหันมาปลูกตะไคร้ส่งออกรายได้งาม

ชาวนาหันมาปลูกตะไคร้ส่งออกรายได้งาม

ชาวนาหันมาปลูกตะไคร้ส่งออกรายได้งาม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชาวนาวัดพริก อ.เมือง จ.พิษณุโลก หันมาปลูกตะไคร้ ส่งให้โรงงานทำชาตะไคร้ส่งออก ลงทุนน้อยไม่เสี่ยง แถมรายได้ดี

ชาวนาในพื้นที่ ต.วัดพริก อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้พลิกผืนนาข้าวหันมาปลูกต้นตะไคร้ เก็บเกี่ยวใบทำชาตะไคร้ส่งออก สร้างรายได้ดี กว่าทำนาข้าว โดยเกษตรกรชาวนารายนี้คือ นายแจ้ง วงค์สุวรรณ อายุ 50 ปี ระบุว่า เมื่อก่อนทำนาข้าว ต่อมาเริ่มมีปัญหาเรื่องภัยแล้ง ทำให้ไม่สามารถทำนาได้ รวมถึงต้นทุนการทำนาสูง จึงเริ่มหาช่องทางอื่นที่จะสามารถหารายได้เลี้ยงครอบครัวได้ และได้ศึกษาเรื่องชาตะไคร้ เนื่องจากเป็นพืชที่ปลูกและดูแลง่าย ไม่ต้องลงทุนมาก จากนั้น เริ่มลงมือซื้อพันธุ์ตะไคร้มาปลูกในพื้นที่ทำนาข้าว จำนวน 3 ไร่ ใช้เวลาปลูกประมาณ 2 เดือน ก็สามารถเก็บเกี่ยวใบได้ เก็บเกี่ยวทุก 25 วัน เฉลี่ยไร่ละประมาณ 1 ตัน จากนั้นจะนำใบตะไคร้สดที่ตัดได้ไปเข้าเครื่องหั่น นำไปตากแดด 1 แดด จากนั้น ก็จะนำส่งขายที่โรงงานในจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อนำบรรจุส่งขายต่างประเทศ โดยราคาที่ส่งขาย อยู่ที่ราคาตันละ 21,000 บาท หากขายปลีก ก็จะอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 20 บาท หรือกระสอบละ 400 บาท

นายแจ้ง กล่าวต่อว่า ต้นตะไคร้ของตนปลอดสารทุกชนิด ไม่มีการฉีดยาฆ่าแมลงหรือยาฆ่าหญ้า ใช้เพียงรดน้ำเท่านั้น ส่วนปุ๋ยก็จะใส่เพียงปุ๋ยชีวภาพ เนื่องจากเราต้องมีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าที่ซื้อไปบริโภค เพราะเวลาชงผู้บริโภคจะต้องรับสารโดยตรง ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้ การปลูกตะไคร้ ถือว่ามีรายได้ดีกว่าการทำนา แต่ก็ไม่ได้ทิ้งยังทำนาข้าวอยู่แต่ทำไว้กินเอง ประกอบกับพื้นที่ที่เหลือ ก็ปลูกต้นมะนาวในวงบ่อ เพื่อนำไปขายอีกช่องทางหนึ่งด้วย


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook