คลังฝันรีดภาษีมรดก7หมื่นล.อุดถังแตก ชี้ล้วงกระเป๋าคนรวยช่วยคนจน-เสียงเชียร์กระหึ่ม
นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาเศรษฐกิจส่วนรวมและการกระจายรายได้ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า สำหรับการหารายได้เพิ่มท่ามกลางความต้องการใช้เงินจำนวนมากของรัฐนั้น เห็นด้วยกับการจัดเก็บภาษีมรดก ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพราะนอกจากสร้างความเป็นธรรมแก่สังคมแล้วยังเป็นการขยายตลาดรายได้ให้กว้างขึ้นจากการนำรายได้จากคนรวยมากระจายสู่คนจนมากขึ้น มีผลให้เกิดคำสั่งซื้อมากขึ้นด้วย
ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบันว่ามาตรการที่ประกาศออกไปในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจะแก้ปัญที่เกิดขึ้นไม่ได้ทั้งหมด เพราะเป็นปัญหาลึกต้องรู้ปัญหาและประเมินผลของมาตรการที่ออกไปก่อน รวมทั้งการแก้ไขปัญหาของประเทศต่างๆ ซึ่งจะมีผลต่อเศรษฐกิจไทย แม้ว่าปีนี้จะมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณที่ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ขณะนี้กำลังจะเข้าสู่การจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี53 ซึ่งน่าจะจัดสรรงบมาใช้ได้ตรงเป้าหมายมากขึ้น
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า หากรัฐบาลดำเนินการจัดเก็บภาษีมรดกในส่วนที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะส่งผลให้มีรายได้เข้ารัฐเพิ่มอีกปีละ 6-7 หมื่นล้านบาท โดยขณะนี้กฎหมายในเรื่องดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนของการแก้ไขในรายละเอียดอีกเล็กน้อยเกี่ยวกับการเก็บภาษีที่ดินเพื่อการเกษตร เนื่องจากถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐไม่ควรจัดเก็บ ซึ่งจะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมเพราะเกษตรกรก็มีทั้งคนจนและคนรวย
นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ในปี42 ตนเคยทำวิจัยเรื่องภาษีมรดก ในการศึกษาที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร โดยเป็นคนแรกๆ ในประเทศไทยที่อยากให้เก็บภาษีมรดก เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลเก็บภาษีได้น้อย และยังไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อคนยากจน
ผมเคยเสนอไว้ในเอกสารวิจัยว่ามรดกที่มีมูลค่าต่ำกว่า 10 ล้านบาท จะไม่เสียภาษี แต่ถ้ามีมรดกเกิน 10 ล้านบาท จึงจะเสียภาษีในอัตราก้าวหน้าคือ 2.5% ถ้าได้มรดกเกิน 20 ล้านบาท เสียภาษีเพิ่มขึ้น การเก็บภาษีในอัตราก้าวหน้าจะไม่กระทบกับคนยากจน เรื่องนี้หากรัฐบาลเสนอมา วุฒิสภาจะช่วยพิจารณา นายประสพสุข กล่าว