'นิวัฒน์ธำรง' ยันมีอำนาจรักษาการ ตาม รธน. เดินหน้าเร่งจัดการเลือกตั้ง ไม่มีกฎหมายรองรับนายกฯมาตรา 7 ขณะที่ 'นพดล' เผย 'ทักษิณ' บินสิงคโปร์ โอด เป็นห่วงบ้านเมือง เบรกประธานวุฒิฯ เสนอรายชื่อนายกฯ ม.7 ไม่ได้ เชื่อ 'พล.อ.ประยุทธ์' ไม่ปฏิวัติ
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพานิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนรักษาการนายกรัฐมนตรี แถลงยืนยันรัฐบาลมีอำนาจตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ โดยจะเดินหน้าหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. ) ในวันพุธที่ 14 พ.ค. เพื่อกำหนดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด และคาดหวังว่าวันที่ 20 ก.ค. นี้จะสามารถเกิดขึ้นได้
พร้อมกันนี้ยังกล่าวถึงกรณีที่จะเสนอนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 7 โดยนายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า กรณีดังกล่าวยังคงไม่มีกฎหมายรองรับ
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ได้มีการเชิญสื่อต่างประเทศทำความเข้าใจเพื่อ สร้างความเชื่อมั่น ว่ารัฐบาลจะสามารถนำพาประเทศผ่านวิกฤติทางการเมืองไปได้
ทักษิณห่วงปท.ยันปธ.วุฒิชงนายกม.7 ไม่ได้เชื่อไม่ปฏิวัติ
นายนพดล ปัทมะ กรรมการกิจการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความพยายามในการขอนายกรัฐมนตรีคนกลาง โดยใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 7 ว่า การเสนอขอนายกรัฐมนตรีด้วยมาตรา 7 ขัดรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถทำได้ ตัวบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 7 เอง ที่ไม่เปิดโอกาสให้ทำได้ และขณะนี้ไ ม่ได้เกิดสุญญากาศทางการเมือง ประกอบกับ ว่าที่ประธานวุฒิสภา ยังไม่ได้รับ พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ และยังมีข้อสงสัยถึงการเลือกประธานวุฒิสภา อาจขัดต่อกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวได้มีการพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์ในประเทศไทย ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้แสดงความเป็นห่วงว่า บ้านเมืองเสียโอกาสไปเยอะ อยากให้มีการพูดคุยกันและหาทางออกโดยสันติวิธี ด้วยระบบประชาธิปไตยผ่านการเลือกตั้ง ซึ่งขณะนี้ อดีตนายกรัฐมนตรี มาพบเพื่อนที่ประเทศสิงคโปร์ แต่ไม่มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง
พร้อมทั้ง ตนมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก จะไม่ปฏิวัติ เพราะต้องการให้ปัญหาการเมือง แก้ไขด้วยการเมืองตามวิถีทางประชาธิปไตย
'สุรพงษ์' ฟ้อง9ตุลาการ รธน.16 พ.ค.ขู่สว.ร่วม'สุเทพ'กบฏ
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ แถลงว่า ในวันที่ 16 พ.ค. เวลา 15.00 น. จะเดินทางไปศาลอาญา เพื่อฟ้องตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 9 คน ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำให้ตนได้รับความเสียหาย และเกิดสุญญากาศการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ รมว.ต่างประเทศ เนื่องจาก ถูกคำพิพากษาจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้ง 9 คน ให้พ้นจากตำแหน่ง โดยที่ตนไม่ได้เป็นผู้ถูกร้อง ในกรณีแต่งตั้งโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาฯ สมช. ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ
ส่วนกรณีที่ กปปส. และกลุ่ม ส.ว.บางกลุ่ม พยายามเชิญชวนประธานศาลต่างๆ ให้เสนอนายกฯ คนกลางตามมาตรา 7 นั้น ขอฝากไปยัง ส.ว.และองค์กรศาลต่างๆ ว่า หากร่วมมือกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ก็จะเป็นการร่วมสมคบคิด ซึ่งขณะนี้ นายสุเทพ โดนจับในข้อหากบฏ และข้อหาก่อการร้าย ฉะนั้นใครก็ตามที่สนับสนุน ให้ความช่วยเหลือผู้ก่อการร้ายหรือกบฏ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองนั้น ร่วมสมคบคิดกับกบฏ และจะมีความผิดเช่นกัน
พท.ยันรบ.มีอำนาจ-นายกฯม.7เกิดไม่ได้ขัดรธน.
คณะกิจการพรรคเพื่อไทย นำโดย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายโภคิน พลกุล คณะกรรมการกิจการพรรคเพื่อไทย และทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย อ่านแถลงการณ์กระบวนการต่อสู้ระหว่างฝ่ายประชาธิปไตย กับฝ่ายเผด็จการอำนาจนิยม ว่า ความไม่สงบและความแตกแยกที่เกิดขึ้นในสังคมไทยตั้งแต่ปี 2549 จนถึงทุกวันนี้ มีสาเหตุมาจากแนวคิดและการดำเนินการของขบวนการที่จะต้องการสถาปนาระบอบเผด็จการอำนาจนิยมเป็นความร่วมมือระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มมวลชนที่ละเมิดกฎหมายและองค์กรตามรัฐธรรมนูญหลายองค์กรที่ละเมิดรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งโจมตีใส่ร้ายป้ายสีและมุ่งทำลาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง และแม้จะมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ที่วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกฯ สิ้นสุดลง พรรคเพื่อไทย ได้ชี้แจงแล้วว่า ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญในทุกมิติ และเห็นว่าความเป็นรัฐมนตรีของรัฐมนตรีทั้งหลาย หาได้สิ้นสุดลง และความพยายามที่ต้องการให้เกิดสุญญากาศ เพื่อมี นายกรัฐมนตรี มาตรา 7 เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะขัดต่อหลักประชาธิปไตย
