ไฟลัดวงจรบึ้มสนั่นรง.พลุดับ2
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060

    ไฟลัดวงจรบึ้มสนั่นรง.พลุดับ2

    2009-01-23T09:05:39+07:00
    แชร์เรื่องนี้
    เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ม.ค. ร.ต.อ.ธงชัย เจิมขุนทด ร้อยเวรสภ.บางมูลนาก จ.พิจิตร รับแจ้งมีเหตุโรงงานทำพลุระเบิด มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 120 หมู่ 4 บ้านวังกร่าง ต.เนินมะกอก อ.บางมูลนาก หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สันต์ โพธิ์รักษา ผกก.สภ.บางมูลนาก พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัย

    พบโรงงานทำพลุ เป็นอาคารเดียวถูกแรงระเบิดพังทั้งหลัง พบศพนายวิรนิจ ฤทธิ์เดช อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ที่ 4 บ้านวังกร่าง อ.บางมูลนาก เจ้าของโรงงานดังกล่าว นอนเสียชีวิตในสภาพศพไหม้เกรียม ด้านหลังบ้านริมคูน้ำพบร่างของนางสมหมาย ฤทธิ์เดช อายุ 40 ปี ภรรยา ของนายวิรนิจ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่นำส่งร.พ.บางมูลนากแต่เสียชีวิตระหว่างทาง

    จากการสอบสวนทราบว่า โรงงานผลิตและเก็บพลุอยู่ห่างจากชุมชนไม่มากนัก มีพลุที่ผลิตแล้วจำนวนมาก และดินปืนที่ยังไม่ได้ผลิตกว่า 1 ตัน ขณะเกิดเหตุไม่มีคนงานอยู่ในโรงงาน เนื่องจากไปส่งพลุให้ลูกค้าที่จังหวัดใกล้เคียง มีเพียงนายวิรนิจและนางสมหมายกำลังเคลื่อนย้ายพลุ เพื่อที่จะไปส่งให้ลูกค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จ.นครสวรรค์ จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

    ต่อมาเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.เชาวลิต ชาญเวช ผบก.ภ.จว.พิจิตร พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิชชะญะ ลีนะทำ รองผบก.ภ.จว.พิจิตร เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการมาตรวจที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุว่าระเบิดเกิดจากสาเหตุอะไร

    พล.ต.ต.เชาวลิตเปิดเผยว่า สาเหตุการเกิดระเบิดของโรงงานทำพลุนั้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรเนื่องจากไฟไหม้คัตเอาต์ และสะเก็ดไฟตกมาใส่ที่ทำพลุซึ่งเป็นชนวนที่ทำให้ระเบิดได้ ตนให้ตำรวจวิทยาการมาตรวจสอบสาเหตุอีกครั้ง ว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือไม่หรือเกิดจากสาเหตุใด เท่าที่ตรวจสอบพบว่าโรงงานทำพลุแห่งนี้ตั้งมานานแล้ว และมีการขออนุญาตทำถูกต้อง ซึ่งหากเป็นเหตุสุดวิสัยคงเอาผิดใครไม่ได้

    สำหรับโรงงานดังกล่าวขออนุญาตเปิดทำพลุถูกต้อง โดยจะหมดอายุในวันที่ 9 มี.ค.2552 โรงงานดังกล่าวนี้เคยเกิดเหตุระเบิดมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อปี 2539 มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และย้ายสถานที่มาเปิดโรงงานใหม่และเกิดเหตุระเบิดขึ้นอีก

    (กรอบบ่าย)