คดีฆ่าสาวไม่คืบญาติ-สภาทนายฟ้องเอง

คดีฆ่าสาวไม่คืบญาติ-สภาทนายฟ้องเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
จากกรณี น.ส.เบญจภรณ์ หรือแอน ผ่องผิว อายุ 27 ปี เจ้าของร้านกิฟต์ช็อปหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถูกคนร้ายฆ่าโดยใช้เข็มขัดนิรภัยมัดมือและรัดคอนำศพไปผูกติดกับต้นกระถินยักษ์ ภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2548 เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นชู้สาว และความแค้นส่วนตัว ต่อมาคดีกลับไม่คืบหน้า การสืบสวนของตำรวจหยุดชะงักและมีตำรวจหลายนายพยายามรื้อคดีนี้ขึ้นมาแต่ก็เงียบหายไป โดยญาติผู้ตายสงสัยแฟนหนุ่มของผู้ตาย

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 22 ม.ค. ที่สำนักงานสภาทนายความ จ.เชียงใหม่ นายพรศักดิ์ สังข์สังวาลย์ ประธานสภาทนายความ จ.เชียงใหม่ น.ส.ธัญญาภรณ์ ผ่องผิว อายุ 32 ปี พี่สาวของน.ส.เบญจภรณ์ ผู้ตาย แถลงข่าวถึงการนำคดีของน้องสาวที่ถูกฆ่าตาย กลับมาฟ้องดำเนินการเองต่อศาล เนื่องจากการทำงานของตำรวจไม่คืบ จนศาลมีคำสั่งรับฟ้องเมื่อวันที่ 21 ม.ค. พร้อมทั้งนัดสืบพยานโจทก์ ในวันที่ 2 มี.ค.นี้

นายพรศักดิ์เปิดเผยว่า ตนเข้ายื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายสุเมธ ผ่องผิว บิดาของผู้ตาย เข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือให้ติดตามคดีที่ลูกสาวถูกคนร้ายฆ่ารัดคอ โดยญาติได้ติดตามการทำงานของตำรวจมาตลอดแต่คดีไม่คืบหน้า จึงขอความช่วยเหลือมายังสภาทนายความให้ช่วยยื่นฟ้องศาลเอง ซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่ 1443/2551 โดยมีนายสุเมธบิดาผู้ตายเป็นโจทก์ยื่นฟ้องเอง สภาทนายความจึงดำเนินการให้ เราได้ไปขอเอกสารหลักฐานบางอย่างจากตำรวจจนได้มาสมบูรณ์ และดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาล โดยศาลได้พิจารณาและไต่สวนมูลฟ้องเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2551 แล้ว ซึ่งเป็นการไต่สวนครั้งแรก กระทั่งศาลมีคำสั่งรับฟ้องเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา และนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 2 มี.ค.นี้ต่อไป ตอนนี้เท่ากับว่า บุคคลที่เป็นคู่กรณีในคดีนี้ตกเป็นจำเลยแล้ว โดยในวันนัดสืบพยาน หากนายวุฒิชัย หรือปุ๊ ใจสมัคร แฟนเก่าของผู้ตาย เดินทางมาศาลก็จะถูกแจ้งข้อกล่าวหา และต้องประกันตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป

ด้านน.ส.ธัญญาภรณ์เปิดเผยว่า ตนและพ่อรู้สึกดีใจอย่างมากที่สภาทนายความยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ และคดีก็คืบหน้าโดยศาลรับฟ้องแล้ว ตนรู้ว่าจำเลยมีความสนิทสนมกับน้องสาวของตนมาก แต่ก็ต้องปล่อยให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อความเป็นธรรมกับผู้ตายและครอบครัวของพวกตนที่จะต้องสู้คดีนี้ให้ถึงที่สุด

(กรอบบ่าย)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook