สธ.แนะปชช.ระวังอันตรายจากพื้นที่อับอากาศ

สธ.แนะปชช.ระวังอันตรายจากพื้นที่อับอากาศ

สธ.แนะปชช.ระวังอันตรายจากพื้นที่อับอากาศ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แนะ ปชช. ระวังอันตรายจากพื้นที่อับอากาศ เสี่ยงอาจถึงขั้นเสียชีวิต

นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า การทำงานในที่อับอากาศ เช่น ในอุโมงค์ ถ้ำ บ่อ หลุม ห้องใต้ดิน ห้องนิรภัย ถังน้ำมัน ถังหมัก ไซโล ท่อ เตา มีอันตรายสูง มีเหตุการณ์เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และทั้งเสียชีวิตหมู่ เนื่องจากลงไปช่วยคนที่หมดสติที่ก้นบ่อ โดยขาดความรู้และขาดอุปกรณ์ป้องกันตัว โดยทางกรมควบคุมโรค เร่งให้ความรู้และเผยแพร่มาตรการความปลอดภัยในการทำงานในที่อับอากาศ แก่ประชาชนทั่วไปที่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์

ด้าน นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การเสียชีวิตในที่อับอากาศที่พบในประเทศส่วนใหญ่มาจาก 2 สาเหตุ คือ 1. ขาดอากาศหายใจ 2. จากการสูดก๊าซพิษเข้าไป ที่พบบ่อย 3 ชนิด คือ ก๊าซไข่เน่า ก๊าซมีเทน และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ที่อันตรายมากคือก๊าซไข่เน่า ลักษณะเบื้องต้นที่พอจะสังเกตได้ว่าในที่นั้นมีก๊าซไข่เน่าอยู่ คือมีกลิ่นเหม็นเหมือนไข่เน่า แหล่งที่พบบ่อยคือในบ่อบำบัดน้ำเสีย หากสูดเข้าไปจะทำให้หยุดหายใจ เสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้น ก่อนจะลงไปทำงานในที่อับอากาศจะต้องใช้เครื่องมือตรวจวัดปริมาณออกซิเจน สารเคมีอันตราย หรือก๊าซพิษก่อน และจัดเตรียมอุปกรณ์ความปลอดภัยสำหรับผู้ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะถังบรรจุออกซิเจนและหน้ากาก ที่สำคัญต้องมีผู้ช่วยเหลืออยู่ที่ปากบ่อหรือปากทางอย่างน้อย 1 คน และผู้ควบคุมการทำงาน 1 คน หากเห็นว่ามีอาการหรือท่าทางผิดปกติ ต้องรีบนำตัวออกมาทันที

อย่างไรก็ตาม หากประชาชนไม่มีเครื่องมือที่กล่าวมาให้ใช้วิธีการสังเกต หากเป็นบ่อน้ำให้ดูสีและกลิ่น น้ำมักจะมีสีดำเข้ม หากยังไม่ได้กลิ่น ให้ใช้ไม้กวนน้ำเพื่อให้ก๊าซไข่เน่าฟุ้งกระจายออกมา หากได้กลิ่นเหม็นรุนแรงเหมือนไข่เน่า และหากเป็นบ่อน้ำที่มีเศษขยะ ซากพืช ซากสัตว์จนน้ำมีสีดำเข้ม ห้ามลงไปเด็ดขาด ที่สำคัญห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่อับอากาศ เพราะอาจเกิดระเบิดขึ้นได้ สำหรับการช่วยเหลือผู้ได้รับอันตราย ให้ดึงเชือกขึ้นมาแทนการลงไป จากนั้นให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยให้นอนราบในที่อากาศถ่ายเทดี หากพบว่าไม่หายใจและหัวใจหยุดเต้น ให้ผายปอดและนวดหัวใจ และรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด หรือโทรแจ้ง 1669


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook