เปิดสาเหตุ กกต.ไร้อำนาจ อนุมัติรัฐกู้เงินจ่ายจำนำข้าว

สมชัย โพสต์เฟซบุ๊ก ขยายความมติ กกต. ไม่รับพิจารณาเงินกู้จำนำข้าว 130,000 ล้าน จ่ายหนี้ชาวนา

จากกรณที่ นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่า ระบุว่าความเห็นของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. หลังนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.การคลัง เข้าหารือขอกู้เงิน 130,000 ล้าน เพื่อชำระหนี้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว ว่าไม่อยู่ในอำนาจของ กกต. ที่จะพิจารณาให้ความเห็นชอบหรือไม่ เนื่องจากมาตรา 181(3) การอนุมัติงบประมาณที่ผูกพันรัฐบาลชุดต่อไป จึงให้เป็นดุลยพินิจของรัฐบาลที่จะพิจารณาดำเนินการ ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังในการดำเนินการ เพราะอยู่ในงบประมาณที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไปก่อนหน้านี้แล้ว และไม่เกินกรอบเพดานวงเงินกู้เดิมที่เคยอนุมัติ อีกทั้งมีหนังสือจากกฤษฎีการับรองสามารถดำเนินการได้ จึงให้รัฐบาลเป็นผู้พิจารณาดำเนินการจัดสรรงบประมาณ อีกทั้งหากเกิดกรณีการฟ้องร้องรัฐบาลต้องเป็นผู้รับผิดชอบเองนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (21 ม.ค.) เมื่อเวลา 19.00 น. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า มติ กกต. เรื่องเงินกู้จำนำข้าว ดังนี้

1.เรื่องที่รัฐบาลขอให้ กกต. อนุมัติขยายวงเงินกู้ 130,000 ล้านเพื่อไปชำระหนี้ชาวนา กกต.เห็นว่า รัฐธรรมนูญไม่ได้ให้อำนาจแก่ กกต. ในการอนุมัติประเด็นดังกล่าว เนื่องจากรัฐธรรมนูญ มาตรา181(3) เขียนไว้เพียงว่า รัฐบาลรักษาการไม่สามารถกระทำการใดๆ ที่มีผลผูกพันคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป (ไม่มีเขียนว่า เว้นแต่ได้รับอนุมัติจาก กกต.)

2.ดังนั้นการพิจารณาในวันนี้ จึงมี 2 ประเด็นใหญ่ๆ คือ ประเด็นแรก เรื่องขยายวงเงินกู้ 130,000 ล้าน อยู่ในอำนาจอนุมัติ กกต. หรือไม่ คำตอบคือ ไม่

3.ประเด็นที่สอง การกู้เงินดังกล่าว เป็นการผูกพันกับ ครม.ชุดต่อไปหรือไม่ ซึ่งตัวแทนฝ่ายรัฐบาลพยายามอธิบายว่าไม่ผูกพัน แต่คำถามที่ถามในที่ประชุม เพื่อนำไปสู่คำตอบว่า ผูกพันหรือไม่ มีหลายคำถามเช่น เงินกู้ 130,000 ล้าน เป็นเงินที่รัฐบาลรักษาการ สามารถขายข้าวมาใช้คืน ก่อนมีรัฐบาลใหม่หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ อีกทั้งข้าวในสต็อก มีเท่าไร มีมูลค่าเท่าไร และจะใช้เวลาเท่าไรในการขายข้าวเพื่อให้ได้เงินคืน คำตอบคือ มีประมาณ 14 ล้านตัน เป็นมูลค่าประมาณ 200,000 ล้านบาท และจะใช้เวลาในการขายประมาณ 2 ปี และนโยบายจำนำข้าว เป็นนโยบายที่รัฐบาลชุดต่อไปจำเป็นต้องยึดเป็นนโยบายต่อไปหรือไม่ คำตอบคือ ไม่

4.ดังนั้นประเด็นที่ จะถือว่า ผูกพันหรือไม่ จึงเป็นประเด็นที่รัฐบาลต้องพิจารณาเอง หากแน่ใจว่า ไม่ผูกพัน ก็ดำเนินการกู้เงินเพื่อไปชำระหนี้ชาวนาได้เลย แต่หากคิดว่า ผูกพัน ก็ไม่ควรดำเนินการ เพราะจะขัดรัฐธรรมนูญ

5.มติ กกต. จึงไม่ใช่ ก. อนุมัติ หรือ ข. ไม่อนุมัติ แต่เป็น ค. คือ ไม่รับพิจารณาและให้รัฐบาลตัดสินใจเอง