อิสสระเชื่อเคลื่อนม็อบใหญ่13ม.ค.คนร่วมแน่น

แกนนำ กปปส. 'อิสสระ' ยัน เคลื่อนม็อบใหญ่ 13 ม.ค. ไม่ปิดตาย กทม. เชื่อ คนร่วมชุมนุมมากขึ้น ย้ำ ตัดน้ำไฟไม่กระทบประชาชน ขณะที่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลง ตำรวจตึกแรงงานใช้แก๊สน้ำตา ด้าน รอง ผบ.ตร. ยืนยัน ตำรวจไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มใช้กำลังรุนแรง
นายอิสสระ สมชัย แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการชุมนุมใหญ่ ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ ว่า ไม่กระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนโดยส่วนรวม รวมถึงการจัดการชุมนุมใหญ่ในครั้งนี้ไม่ใช่การปิดตาย หากประชาชนมีเหตุด่วนจำเป็นในการเดินทาง จะมีอาสาสมัครอำนวยความสะดวกในเรื่องของเส้นทางไว้ให้
ในขณะที่ ประชาชนในกรุงเทพมหานคร จะเข้าร่วมการชุมนุมใหญ่ครั้งนี้มากขึ้น และในต่างจังหวัด โดยเฉพาะภาคอีสาน ก็มีการเตรียมตัวที่จะเดินทางมาร่วมชุมนุมเช่นกัน
ล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ทำหนังสือถึง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในการจัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวก เรื่องของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการชุมนุมของ กปปส. นั้น นายอิสสระ กล่าวว่า ทาง ผู้ว่าฯ กทม. มีหน้าที่โดยตรงอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นพื้นที่ในเขต กทม. ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความเอาใจใส่เป็นอย่างดี ทั้งนี้ มาตรการในการตัดน้ำ ตัดไฟ สถานที่ราชการ น่าจะเริ่มหลังจากเกิดการชุมนุมไปแล้ว โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างแน่นอน
เวที กปปส. ยังไร้กิจกรรมปราศรัยของแกนนำ
บรรยากาศที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ซึ่งเป็นสถานที่ชุมนุมของ กลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ล่าสุดขณะนี้ มวลชนยังคงพักผ่อนตามอัธยาศัยอยู่ภายในเต็นท์ที่พัก เนื่องจากแดดเริ่มร้อน โดยที่บนเวทียังไม่มีกิจกรรมการปราศรัยใดๆ มีเพียงการเปิดเทปการปราศรัยของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ของเมื่อคืนที่ผ่านมา ให้ผู้ชุมนุมได้รับชม
พร้อมกันนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่จากกรุงเทพมหานคร ได้เข้ามาทำความสะอาดเก็บกวาดขยะ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
กปปส. ยังอุบแผนเคลื่อนม็อบ 5 ม.ค.
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. กล่าวว่า ขณะนี้ หน่วยงานของรัฐบาล ได้มีความพยายามบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร เพื่อให้ร้ายกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. โดยการสร้างหลักฐานเท็จ ข้อมูลเท็จ
นอกจากนี้ ยังมีขบวนการมืด ได้ติดตั้งป้ายที่มีข้อความไม่เหมาะสม โจมตี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. พร้อมทั้ง มีการแจกใบปลิวถึง 3 ฉบับ ที่มีความผิดเพี้ยนจากความเป็นจริง ในการเคลื่อนไหวปิดกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 13 ม.ค.
ทั้งนี้ สำหรับการเคลื่อนขบวน ในวันที่ 5 ม.ค.นั้น จะเป็นการเดินรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนในกรุงเทพมหานคร ออกมาร่วมชุมนุม ในวันที่ 13 ม.ค. ส่วนเส้นทางการเคลื่อนขบวนนั้น จะชี้แจงให้ทราบในภายหลัง
ผบ.ตร.แถลงตร.ตึกแรงงานใช้แก๊สน้ำตาไร้อาวุธ
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า ชายชุดดำบนตึกกระทรวงแรงงาน คือ ตำรวจชุดอารักขาและควบคุมฝูงชน หรือ อคฝ. จำนวน 10 นาย ได้รับมอบหมายให้ขึ้นไปสังเกตการณ์และใช้แก๊สน้ำตายับยั้งการชุมนุม ไม่มีอาวุธแต่อย่างใด ส่วนกรณีกลุ่มชายแต่งกายเครื่องแบบทุบรถนั้น เป็นตำรวจ อคฝ. เช่นเดียวกัน แต่มีเหตุผลความจำเป็น เนื่องจากสถานการณ์เข้มงวดขึ้น มีกลุ่มผู้ชุมนุมรุกล้ำเข้าไปในอาคาร และใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ ส่วนภาพตำรวจทุบรถ เป็นความพยายามเข้าไปจับกุม เนื่องจากเห็นกลุ่มผู้ชุมนุมหลบเข้าไปในรถ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่มีอาวุธ และมีแต่โล่กระบองเท่านั้น
ด้าน พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในวันดังกล่าว ได้วางกำลังตำรวจทั้งหมด 16 กองร้อย และได้จัดกำลังตำรวจ อคฝ. 10 นาย ขึ้นไปสังเกตการณ์บนตึกกระทรวงแรงงาน ตามยุทธวิธี เนื่องจากอาคารดังกล่าวสูง 12 เมตร เห็นกลุ่มผู้ชุมนุมชัดเจน พร้อมปฏิเสธว่า ตำรวจชุดดังกล่าวไม่ได้ใช้อาวุธปืนยิง ด.ต. และกลุ่มผู้ชุมนุม ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มใช้กำลังรุนแรงก่อน พร้อมระบุ แก๊สน้ำตาที่เจ้าหน้าที่ใช้เป็นแบบไม่มีเสียง แต่ที่ได้ยินเป็นประทัดยักษ์ ซึ่งได้จับกุมผู้ก่อกวน ซึ่งให้การรับสารภาพว่า ถูกว่าจ้างมาสร้างสถานการณ์