คุก26ปี หนุ่มหาเงินแต่งงาน รับยาบ้ากลางห้องพิจารณาคดี

คุก26ปี หนุ่มหาเงินแต่งงาน รับยาบ้ากลางห้องพิจารณาคดี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิต นายสงกรานต์ ไชยวงค์ อายุ 27 ปี และนายบรรจง สร้อยแก้ว อายุ 27 ปี จำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทไว้ในครอบครอง และปรับเงิน1 ล้านบาท

ตามโจทก์ฟ้อง เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2551 สรุปว่า เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2551 เวลากลางวัน ศาลอาญานัดไต่สวนคำร้องในคดียึดทรัพย์ ซึ่งมีนายบรรจง จำเลยที่ 2 ของคดีนี้ เป็นจำเลย ระหว่างการพิจารณาคดี นายสงกรานต์ จำเลยที่ 1 ซึ่งนั่งอยู่ด้านหลังห้องย้ายที่มานั่งใกล้กลับจำเลยที่ 1 ก่อนจะส่งมอบยาเสพติดให้แก่จำเลยที่ 2 ซึ่งนายเชาว์ ทวีปะ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 5 ที่นั่งคุมจำเลยที่ 2 อยู่นั้นเห็นเหตุการณ์ จึงจับกุมจำเลยทั้งสองไว้ จากการตรวจสอบพบเมทแอมเฟตามีน จำนวน 4 ซอง น้ำหนัก 72.680 กรัม และมี 3,4 เมทิลีน 30 เม็ด และไนเมตาซีแพม อันเป็นวัตถุออกฤทธิ์ จำนวน 30 เม็ด ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 และริบของกลาง

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า โจทก์มี นายเชาว์ ทวีปะ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 5 เบิกความเป็นพยาน ระบุว่า ขณะทีวบคุมตัวจำเลยที่ 2 ในห้องพิจารณาคดีนั้น สังเกตเห็น จำเลยที่ 1 ท่าทีมีพิรุธ มือลุกมานั่งด้านหลังจำเลยที่ 2 เห็นจำเลยที่ 1 ส่งวัตถุที่ห่อด้วยพลาสติกสีดำให้แก่จำเลยที่ 2 จึงควบคุมตัวทั้งสองไว้ ตรวจสอบที่นั่งของจำเลยที่ 1 พบว่ามีวัตถุที่ห่อด้วยพลาสติกสีดำตกอยู่ที่พื้นอีก 1 ก้อน เมื่อตรวจสอบดูจึงพบยาเสพติดของกลาง ต่อมาวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2551 ศาลมีคำพิพากษาจำคุกจำเลยทั้งสองเป็นเวลา 6 เดือน ฐานประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล

ประกอบกับจำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อว่าจ้างจากบุคคลที่ได้รับโทรศัพท์จากนักโทษในเรือนจำให้นำยาเสพติดมาส่งให้จำเลยที่ 2 ที่ศาลอาญา ในราคา 2 หมื่นบาท โดยทำมาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อเดือนกรกฎาคม 2550 เพื่อนำเงินไปแต่งงาน ศาลเห็นว่าคดีนี้เกิดขึ้นให้ห้องพิจารณามีพยานรู้เห็นเหตุการณ์โดยใกล้ชิดและไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยทั้งสองมาก่อน เชื่อว่าเบิกความไปตามข้อเท็จจริง ที่จำเลยที่ 2 อ้างว่าถูกกลั่นแกล้งเป็นคำกล่าวอ้างลอยๆ ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานโจทก์ เชื่อว่าจำเลยทั้งสองกระทำผิดตามฟ้อง

พิพากษาลงโทษจำคุกลงโทษลอดชีวิตจำเลยทั้งสอง ฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และปรับคนละ 1,000,000 บาท ฐานร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท จำคุก คนละ 2 ปี จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 26 ปี ปรับ 500,000 บาทและให้นับโทษต่อจากความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ส่วนจำเลยที่ 2

ส่วนจำเลยที่ 2 ซึ่งศาลอาญาได้มีคำพิพากษาจำคุก ในคดีหมายเลขแดงที่ อย.1652/2550 ให้จำคุก 50 ปี ปรับ 1,333,333.33 บาท ฐานครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายแล้ว ความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ พ.ศ.2522 วางโทษจำคุกตลอดชีวิตไม่อาจเพิ่มโทษในส่วนนี้ได้ จึงเพิ่มโทษปรับกึ่งหนึ่ง เป็นเงินจำนวน 1.5 ล้านบาท ให้นับโทษต่อฐานละเมิดอำนาจศาล และริบของกลาง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook