ลับ ลวง พราง สายสีม่วง ช.การช่าง โขกราคาประมูล 1.67 หมื่น ล.

ลับ ลวง พราง สายสีม่วง ช.การช่าง โขกราคาประมูล 1.67 หมื่น ล.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4072

ลงล็อกแบบไม่มีพลิกโผ สำหรับการเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ กรอบวงเงิน 36,055 ล้านบาท ประเดิม กดปุ่มเปิดซองราคาสัญญาแรก งานก่อสร้าง 12 กิโลเมตร ช่วงเตาปูน-สะพานพระนั่งเกล้า กรอบวงเงิน 13,441 ล้านบาท

ชื่อกิจการร่วมค้า CKTC (บมจ. ช.การช่าง-โตคิว) มาตามนัด ไม่เสียยี่ห้อ ปลิว ตรีวิศวเวทย์ ผู้สนับสนุนหลัก พรรคประชาธิปัตย์ เสนอราคาต่ำสุด 16,724,500,000 บาท เบียด บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ตระกูลชาญวีรกูล ที่กำลังเรืองอำนาจในรัฐบาลชุดนี้แค่ 375 ล้านบาท แต่ทิ้งห่าง บมจ.อิตาลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ของ เสี่ยเปรมชัย กรรณสูต 1,192 กว่าล้านบาท

ฟันธง ITD-ซิโน-ไทยฯ คว้าสัญญา 2

คิวต่อไปคืองานประมูลสัญญาที่ 2 ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ เป็นงานก่อสร้างจากช่วงสะพานพระนั่งเกล้า-บางไผ่ ระยะทาง 11 กิโลเมตร กรอบวงเงิน 12,602 ล้านบาท และอีกเช่นเคย ปรากฏชื่อกิจการร่วมค้า ITON (บมจ.อิตาเลียนไทยฯ -บจ.โอบายาชิ-บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ) เข้าป้าย เพราะตีตราจองไว้ล่วงหน้า

ส่วนสัญญาที่ 3 งานก่อสร้างอาคาร ที่จอดรถและศูนย์ซ่อมบำรุง กรอบวงเงิน 5,962 ล้านบาท แน่นอนแล้วว่าจะเปิดล่าช้าประมาณ 2 เดือน เพราะอยู่ระหว่างการพิจารณาด้านเทคนิคจากทางองค์การ ความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) ถึงแม้มูลค่างานจะตกแค่หลัก 5 พันล้าน แต่ก็อุตส่าห์มีรับเหมา 5 รายเสนอตัวชิงดำ

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าววงในมีการ ฟันธงล่วงหน้าว่าชื่อชั้นของ ซิโน-ไทยฯ มาแรงสุดๆ แซง ทาเกนากะ-ฤทธา ซึ่งว่ากันว่าเป็นโผเดิมในยุครัฐบาลพลังประชาชน ส่วนอิตาเลียนไทยฯ, ช.การช่าง-โตคิว, ซิโน-ไทยฯ และกิจการร่วมค้า PAR (บมจ.พาวเวอร์ไลน์ คอนสตรัคชั่น-บมจ.แอสคอน คอนสตรัคชั่น-บจ.รวมนครก่อสร้าง) เสมอเพียงแค่ไม้ประดับ

ทั้งนี้ทั้งนั้นโผทั้งหลายแหล่จะเป็นแค่ ข่าวลือหรือข่าวลับ ลวง พราง มีการฮั้วราคากันจริงหรือไม่ พระท่านว่ากาลเวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์ !

การเมืองเรื่องของ ราคากลาง

วินาทีนี้ยังมีเรื่องที่น่าสนใจยิ่งกว่าก็คือ เผือกร้อน ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัด จะปรุงแต่งคำอธิบายอย่างไรเพื่อชี้แจงต่อสาธารณชนให้หายข้องใจกับค่าก่อสร้างที่ผู้รับเหมาเสนอเข้ามา แพง กว่า ราคากลาง หรือกรอบวงเงินที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติไว้

โดยสัญญาแรกที่เพิ่งประมูลไปหมาดๆ ช.การช่าง-โตคิว เสนอราคาสูงลิ่วกว่า 1.67 หมื่นล้านบาท เกินจากกรอบเดิมกว่า 3.2 พันล้านบาท (ดูตารางประกอบ) งานนี้ว่ากันว่า ถึงจะใช้นักการทูตลิ้นทองเจรจาต่อรองราคา ก็คงไม่ง่ายนักที่จะทำให้ เสี่ยปลิว ยอมกดราคาลงมาให้อยู่ในกรอบ (ราคากลาง) 13,441 ล้านบาท

แหล่งข่าวจาก รฟม.กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการประกวดราคาที่มี ชูเกียรติ โพธยานุวัตร รองผู้ว่าการ รฟม.เป็นประธาน กำลังพิจารณาว่าจะใช้ฐานราคาก่อสร้างของเดือนกรกฎาคม 2551 ซึ่งเป็นราคาก่อสร้างที่นำมาใช้เป็นฐานในการคำนวณราคากลาง และ ณ เวลานั้น ราคาวัสดุก่อสร้างหลักๆ ได้แก่ เหล็ก ทะลุเกือบ 40 บาทต่อกิโลกรัม นั่นหมาย ความว่า ราคาประมูลกว่า 1.67 หมื่นล้านบาท ของกลุ่ม ช.การช่าง-โตคิว อิงราคาวัสดุในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วนั่นเอง

สิ่งที่ รฟม.กำลัง กลุ้ม ก็คือ ควรจะใช้ฐานราคาเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว หรือจะใช้ฐานราคาปัจจุบันของเดือนมกราคม 2552 ซึ่ง ความน่าจะเป็น จะสอดคล้องกับราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวลดลงแล้ว เช่น เหล็กราคาเหลือกว่า 20 บาทต่อกิโลกรัม หากตัดสินใจอิงฐานราคาปัจจุบัน ราคาประมูลจะสามารถปรับได้ใกล้เคียงกับกรอบราคา กลางที่ ครม.อนุมัติอยู่ที่ 13,441 ล้านบาท

ขั้นตอนจากนี้ คณะกรรมการประกวดราคาจะตรวจสอบรายละเอียดการเสนอราคาเปรียบเทียบแต่ละรายการ เพื่อทำการเจรจาต่อรองราคากับ ช.การช่างในฐานะ ผู้เสนอราคาประมูลต่ำสุด... แหล่งข่าว รฟม.กล่าวอย่างมีความหวัง

ชง ครม. ประชาธิปัตย์ ตัดสินใจ

ดูเหมือนว่า ทางเลือก สำหรับ รฟม.จะมีไม่มากนัก 1)ถ้าพิจารณาแล้ว ราคาประมูลสมเหตุสมผลก็ต้องนำเสนอขออนุมัติจาก ครม.ให้ขยายกรอบวงเงินเพิ่ม หรือ 2)ถ้าราคาประมูลครั้งนี้ โอเวอร์ ไปจริงๆ ก็สามารถเรียกผู้ประมูลรายที่ 2 ที่ 3 เข้ามาเจรจาต่อรองเพื่อดึงราคาให้กลับมาอยู่ราคากลางให้ได้ หรือ 3)ยกเลิกการประมูลครั้งนี้ไปเลย ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้ เสียเวลาเปิดประมูลใหม่ 2-3 เดือน

มาถึงตรงนี้ เผือกร้อน ที่ตอนแรกอยู่ในมือของ รฟม. สุดท้ายก็จะถูกซัดทอดนำเสนอตามลำดับสายบังคับบัญชาสู่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายโดยคณะรัฐมนตรี รัฐบาลประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้มีอำนาจ ชี้เป็นชี้ตาย เมกะโปรเจ็กต์สายสีม่วง ตามกฎหมาย ภายใต้โควตารัฐมนตรีคมนาคมที่สังกัดกลุ่ม เพื่อนเนวิน

ข้อมูลจากฟากด้านผู้รับเหมา ช.การช่าง-โตคิว ยืนยันนอนยันหนักแน่นแล้วว่าราคาที่เสนอมาปรับลดไม่ได้อีกแล้วแม้แต่บาทเดียว โดยอธิบายว่าสัญญา มีค่า K บวก-ลบ 4% อยู่แล้ว สามารถ ปรับราคาได้ตามจริงตามราคาวัสดุก่อสร้างที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละงวดงาน

สมการผลประโยชน์แบบนี้ ไม่ว่าจะ พลิกแพลงไปทางไหน คนวงในฟันธงว่าสุดท้าย ช.การช่าง มีแต่ได้กับได้ ส่วน ใคร จะเปลืองตัวหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง !!! หน้า 6

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook