ศิลาในน้ำเชี่ยว - คนกับคลื่น

ศิลาในน้ำเชี่ยว - คนกับคลื่น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
คุณหมอเริ่มสนใจการแพทย์ทางเลือกตั้งแต่ 20 ปีก่อน หลังจบการศึกษาแพทยศาสตร์และรับราชการในต่างจังหวัด ได้พบเห็นอาการเจ็บป่วยและวิธีการรักษาที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยการแพทย์แผนปัจจุบัน แต่สิ่งที่เราอธิบายไม่ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ อีก 10 ปี 100 ปี ข้างหน้า ก็อาจกลายเป็นสิ่งที่อธิบายได้และยอมรับกันทั่วไป แสดงให้เห็นว่าวิทยาศาสตร์ก็ยังมีข้อจำกัด คือองค์ความรู้ที่เรามีเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ นั้นยังไม่เพียงพอ และไม่สามารถอธิบายปรากฏการณ์ทุกอย่างในโลกได้

ต่อมาท่านไปรับราชการที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์กางเกงชั้นในที่มีการโฆษณาว่าช่วยฆ่าเชื้อโรค รักษาริดสีดวงทวารได้ เมื่อนำไปเพาะเชื้อแล้วก็พบว่ายับยั้งเชื้อโรคได้จริง พอดีคุณหมอไปดูงานที่ญี่ปุ่น จึงได้เรียนรู้เรื่องคลื่นฟาร์อินฟราเรด (far infrared) ซึ่งแร่บางอย่าง เช่น แพลทินัม สามารถส่งคลื่นนี้ออกมาได้ คนญี่ปุ่นจึงเอาแร่มาบดเป็นผง โดยยังคงรักษาคุณสมบัติในการส่งคลื่นดังกล่าวเอาไว้ แล้วนำไปผสมในเส้นด้ายใยสังเคราะห์ เมื่อทอเป็นผ้าก็สามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น รวมทั้งสามารถยับยั้งเชื้อโรคบางอย่างได้ คุณหมอจึงเริ่มสนใจเรื่องคลื่นที่มีผลต่อชีวิตมนุษย์ตั้งแต่นั้นมา

// //

คุณหมอกล่าวว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มีคลื่นความถี่ ซึ่งถูกกำกับโดย ความถี่ (frequency) และ ความยาวคลื่น (wave range) คลื่นที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เช่น แสงธรรมชาติ (visible light) หรือแสงสีขาว เรามองเห็นได้เพราะมันไปตกกระทบวัตถุแล้วสะท้อนเข้าตาเรา แสงสีขาวนี้สามารถแยกออกเป็น 7 สีได้ด้วยปริซึม แต่ละสีก็มีความถี่และความยาวคลื่นไม่เท่ากัน แต่คลื่นในจักรวาลมีมากมายกว่านั้น มีทั้งคลื่นที่อยู่ต่ำกว่าแสงสีแดง หรืออยู่เหนือแสงสีม่วง เช่น อินฟราเรด อัลตราไวโอเลต รวมถึงคลื่นที่มนุษย์พัฒนาขึ้น อย่างคลื่นโทรศัพท์มือถือ คลื่นวิทยุ คลื่นไมโครเวฟ คลื่นจากคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

แม้แต่ร่างกายคนเราก็มีคลื่นประจำแต่ละอวัยวะ ซึ่งมีความถี่และความยาวคลื่นต่างกัน สถาบันวิจัยด้านไบโอฟิสิกส์แห่งหนึ่งในเยอรมนี จึงศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเซลล์ในร่างกายคนกับคลื่นความถี่ต่างๆ ด้วยหลักฟิสิกส์ เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการรักษาโรคเรื้อรังต่างๆ ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันแห่งนั้น ที่มาให้ความรู้ร่วมกับคุณหมอ เล่าว่า การกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับดีเอ็นเอของสิ่งมีชีวิตได้ ซึ่งส่งผลได้ทั้งในด้านบวกและลบ จึงนำมาประยุกต์ใช้สร้างเครื่องมือส่งคลื่นความถี่ในสนามแม่เหล็ก เพื่อช่วยปรับสมดุลให้ร่างกาย เพิ่มความแข็งแรงในระดับดีเอ็นเอ กระตุ้นภูมิต้านทาน เติมพลังและทำให้ร่างกายทำงานได้เป็นปกติขึ้น รวมถึงช่วยรักษาโรคได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ต้องมีการปรับคลื่นให้เหมาะสมกับร่างกายของแต่ละคนเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด

ความรู้เรื่องคลื่นสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ในประเทศสวีเดนห้ามให้มีสิ่งก่อสร้างในรัศมี 200 เมตรรอบสายไฟฟ้าแรงสูง โดยเฉพาะสิ่งก่อสร้างที่เกี่ยวกับเด็กอ่อนและเด็กวัยเรียน เพื่อป้องกันอันตรายจากสายไฟฟ้าและคลื่นไฟฟ้า ปัจจุบันนี้ยังมีการค้นพบแล้วว่า คลื่นไมโครเวฟที่นำมาให้ความร้อนแก่อาหารก็มีโทษ เพราะทำให้ดีเอ็นเอของอาหารเปลี่ยนแปลงไป เมื่อกินเข้าไปจึงอาจทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ คลื่นจากโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ก็มีความแรงทะลุทะลวงวัตถุได้ การใช้อุปกรณ์เหล่านี้มากๆ จึงทำให้เกิดอันตรายต่อเซลล์ของร่างกายได้เช่นกัน

และข่าวดีสำหรับท่านที่สนใจด้านนี้ วันพุธที่ 21 มกราคมนี้ มร.อเล็กซานเดอร์ ทอสคาร์ ชาวเยอรมัน ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านพลังจิตและได้รักษาโรคร้ายแรงให้แก่ผู้ป่วยทั่วโรค จะเดินทางมาประเทศไทย เพื่อบรรยาย ถ่ายทอดพลัง พร้อมเปิดตัวหนังสือ พลังจิตรักษาโรค ศาสตร์แห่งการบำบัดโรคภายในพริบตา เวลา 14.00-16.00 น. ณ หอประชุมพุทธคยา ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ สำรองที่นั่งได้ที่ สนพ.ดีเอ็มจี โทร.0-2685-2254 หรือ www.dmgbooks.com

ดนัย จันทร์เจ้าฉาย

ภูมิใจไทย:ก้าวสำคัญของเนวิน

การเมืองแบบไทยๆ อะไรๆ ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ ฟัดกันแทบจะตายกันไปข้าง วันหนึ่งก็อ้าขาผวาปีกเข้าหากันได้อย่างไม่เคอะเขิน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook