ขอของขวัญ''วันครู''เลิกดึงศึกยุ่งการเมือง
ประการที่สาม รมว.ศึกษาธิการทุกคน ที่เข้ามามักจะมุ่งเป้าหมายไปที่สวัสดิภาพและสวัสดิการของครู และแก้ปัญหาหนี้สินครู แต่วันนี้ครูก็ยังตายจากวิกฤติทางภาคใต้ตลอดเวลา และหนี้สินครูก็ยังไม่ลดลงแต่กลับจะมีเพิ่มขึ้น ประการที่สี่ ในขณะที่ทั้งสังคมและกระทรวงศึกษาธิการมักจะเรียกร้องให้ครูพัฒนาคุณภาพ แต่ในความเป็นจริง ทุกคนยังใช้ครูในบทบาทที่หลากหลายจนครูไม่สามารถสอนได้เต็มที่ 100% ประการที่ห้า ปัจจุบันเรามีหน่วยงานประเมินมาตรฐานการศึกษา คือ สำนักงานรับรองและประเมินมาตรฐานการศึกษา (สมศ.) ทำให้เราทราบว่า ในการประเมินภายนอกรอบแรกจากโรงเรียนกว่า 30,000 โรง มีโรงเรียนที่ต่ำกว่ามาตรฐานถึง 65% ประการที่หก ในช่วง 5 ปีมานี้ เรามีรมว.ศึกษาธิการ ถึง 8 คน แต่ปฏิรูปการกษาก็ล้มเหลว แสดงให้เห็นว่าการมีรัฐมนตรีมากมายไม่ได้ช่วยให้สามารถปฏิรูปการศึกษาได้ และประการสุดท้าย คือ คำถามว่า การที่เราได้ลงทุนเพื่อวิทยฐานะของครูกว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าการอุดหนุนโรงเรียนทั้งประเทศ แต่สิ่งที่ได้คืออะไร
โจทย์ในการปฏิรูปการศึกษา เป็นโจทย์ใหญ่และหนัก ซึ่งไม่ใช่การบวกเลขที่จะหาคำตอบได้ในช่วงสั้น ๆ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของเด็กและสังคมที่รัฐบาลจะต้องมองภาพจริง และต้องกล้าทุ่มเทเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งทางองค์กร วิชาชีพครูอยากจะขอให้ยกเว้นเรื่องของการศึกษาเรื่องของเด็กไม่ถูกนำไปเป็นประเด็นทางการเมืองจะได้หรือไม่ เพื่อให้การปฏิรูปการศึกษาประสบความสำเร็จเสียที นายบุญช่วย กล่าว.