ธปท.หวั่นจีดีพีโต0%ฉุดตกงานพุ่ง1.4ล.

นางอมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในการสัมมนาวิชาการ วิกฤตเศรษฐกิจกับการจ้างงาน ว่า ในเดือนพ.ย.51 อัตราการว่างงานของไทยเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1.4% จากเดือนต.ค.51 อยู่ที่ 1.2% ซึ่งยังถือว่าอยู่ต่ำมาก แต่เริ่มมีสัญญาณของการลดชั่วโมงการทำงานในภาคอุตสาหกรรมตั้งแต่ไตรมาส 2/51 และขณะนี้เริ่มเห็นการเคลื่อนย้ายของตลาดแรงงานไปสู่ภาคเกษตรบ้าง เพราะแรงงานที่ได้รับค่าตอบแทนจากการทำงานล่วงเวลาลดลง คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของรายได้ที่หายไป ส่งผลกระทบต่อการบริโภคและการจับจ่ายใช้สอยลดลงด้วย

ธปท.ได้ประเมินสถานการณ์การว่างงานกับอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (จีดีพี) เบื้องต้นพบว่า กรณีเลวร้าย หากเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 0% จะมีผู้ว่างงาน 1.4 ล้านคน รวมทั้งบัณฑิตจบใหม่และแรงงานภาคเกษตรที่พ้นฤดูการเก็บเกี่ยวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.7% กรณีที่ดีที่สุด เศรษฐกิจโต 2% ผู้ว่างงาน 1.1 ล้านคน อัตราการว่างงาน 2.9% ซึ่งการว่างงานปีนี้มีแนวโน้มรุนแรงกว่าปี51 ส่วนการที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายให้เศรษฐกิจโต 2.5% และมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยเหลือผู้ว่างงาน ก็น่าที่จะช่วยดูแลผู้ว่างงาน 1 ล้านคนได้ นางอมรากล่าว

ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า เตรียมนำเสนอมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นมาตรการสมทบต่อเนื่องจากการจัดทำงบกลางปีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมครม.วันที่ 20 ม.ค.นี้ ได้แก่ มาตรการภาษีภาคอสังหาริมทรัพย์ เบื้องต้นจะให้เงินต้นมาหักลดหย่อนภาษี แต่จำกัดสิทธิเฉพาะผู้ซื้อบ้านในปี52 และมาตรการภาษีที่เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจท่องเที่ยว แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดในขณะนี้ โดยรัฐบาลจะสูญเสียรายได้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม จะยังไม่ลดภาษีนิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มในช่วงเวลานี้