นายกฯ พาครอบครัวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่กระบี่

นายกฯ พาครอบครัวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่กระบี่

นายกฯ พาครอบครัวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่กระบี่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
อภิสิทธิ์ พาครอบครัว พักร้อนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่กระบี่ ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่น นักท่องเที่ยวแห่เที่ยวกาญจน์รถไฟรายได้เพิ่มเกินครึ่ง กู้ภัย พิงค์นคร สั่งเพิ่มกำลังคน-รถตรวจการพร้อมรับเหตุ เมื่อเวลา 14.05 น.วันที่ 1 มกราคม 2552 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมครอบครัว ได้เดินทางมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ด้วยสายการบินของ บ.การบินไทย เที่ยวบิน ทีจี 245 โดยมีนายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายอาคม เอ่งฉ้วน และนายสาคร เกี่ยวข้อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ให้การต้อนรับ โดยมี พ.ต.อ.บุญทวี โตรักษา รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ กว่า 50 นาย คอยรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ทันทีที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ามาในอาคารรับรองผู้โดยสารขาเข้า ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ก็ได้ยิ้มทักทายผู้ที่มาต้อนรับอย่างอารมณ์ดี ขณะเดียวกันได้มีประชาชนที่อยู่ในบริเวณท่าอากาศยาน และชาวมุสลิม ที่มารอรับผู้โดยสารกลับจากทำพิธีฮัจย์ ซึ่งมาเที่ยวบินดังกล่าวด้วย ประมาณ 100 คน ก็เข้ามาให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมทั้งมอบช่อดอกไม้ และกล่าวทักทายให้กำลังใจนายรัฐมนตรี นอกจากนั้น ยังมีการเขียนป้ายข้อความให้กำลังใจ เช่นกัน อาทิ ขอต้อนรับนายกอภิสิทธิ์ เราจะเป็นกำลังใจให้นายกอภิสิทธิ์ ถึงเวลาคนดีได้ปกครองบ้านเมือง ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ก็ได้กล่าวทักทาย พร้อมถ่ายรูปร่วมกับประชาชนที่มาตอนรับอย่างเป็นกันเอง พร้อมทั้งกล่าวให้สัมภาษณ์ เกี่ยวกับการเดินทางมาครั้งนี้ ว่า เพื่อพาครอบครัวมาเที่ยวพักผ่อนช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เท่านั้นไม่มีภารกิจอื่นแอบแฝง โดยได้เตรียมแผนที่จะเดินทางมาพักผ่อนยังจังหวัดกระบี่มานานแล้ว พร้อมทั้งกล่าวถึงเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่ ผับซานติกา เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่า ได้ไปตรวจสอบที่เกิดเห่อช่วงเช้า และได้มอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการแล้ว จากนั้นก็ไปขึ้นรถตู้ของนายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเดินทางไปเข้าพักที่โรงแรม เซ็นทรัลกระบี่เบย์ รีสอร์ท ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ นักท่องเที่ยวแห่เที่ยวกาญจน์รถไฟรายได้เพิ่มเกินครึ่ง ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาญจนบุรี รายงานบรรยากาศการท่องเที่ยวเทศกาลปีใหม่ ว่า ได้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาจากทั่วสารทิศ ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวคลาคล่ำไปด้วยผู้คน โดยเฉพาะบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว อ.เมือง มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวกันจำนวนมาก ซึ่งทางการรถไฟแห่งประเทศไทยได้จัดสร้างรถไฟจำลอง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้โดยสารชมทิวทัศน์แล่นข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแคว มีนักท่องเที่ยวนิยมใช้บริการกันอย่างเนืองแน่น ด้าน นายภิวัฒน์ ราคา อายุ 47 ปี เจ้าหน้าที่รถไฟ กล่าวว่า ปกติจะการรถไฟจะจัดเที่ยววิ่งวันละ 2 เที่ยว เพื่อให้เพียงพอแก่การใช้บริการในช่วงปีใหม่นี้ต้องเพิ่มเที่ยววิ่งเป็น 3 เที่ยว จากการเก็บค่าโดยสารได้วันละประมาณ 3,000 4,000 บาท ในช่วงเทศกาลปีใหม่ปีนี้ การรถไฟสามารถเก็บค่าโดยสารได้วันละ 12,000 -13,000 บาท ซึ่งสร้างรายได้ให้กับการรถไฟได้ดีเป็นพิเศษ กู้ภัยพิงค์นครสั่งเพิ่มกำลังคน-รถตรวจการพร้อมรับเหตุ นายวิชิต ตันติศักดิ์ ประธานศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน(อปพร.)เทศบาลนครเชียงใหม่ หรือกู้ภัยพิงค์นคร เปิดเผยว่า ช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ปีนี้ ในส่วนของกู้ภัยพิเศษพิงค์นครประเมินว่า แนวโน้มของการเกิดอุบัติภัยในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ยังคงมีอยู่สูงมาก หากเทียบกับช่วงปีใหม่ปีก่อนๆ แม้กระแสข่าวที่ออกมาหลายฝ่ายอาจประเมินว่า เศรษฐกิจและปัญหาการเมืองในประเทศ จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดน้อยลง แต่ความเป็นจริงแล้วในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา กลับพบว่าปริมาณนักท่องเที่ยวในกลุ่มที่เป็นคนไทย ซึ่งเดินทางมาจากต่างจังหวัดเข้ามายัง จ.เชียงใหม่ กลับเพิ่มจำนวนมากขึ้น ทั้งนี้ สิ่งที่น่าเป็นห่วงในช่วงวันหยุดยาวนี้ อันดับแรกยังคงเป็นเรื่องของอุบัติเหตุทางรถ ซึ่งเกิดจากเมาแล้วขับซึ่งคนไทยยังมีนิสัยชอบดื่มสุราฉลองช่วงเทศกาล นักท่องเทมี่ยวยังนิยมเข้าไปเที่ยวในสถานบริการผับ-บาร์ ซึ่งหากมีการจุดพลุ หรือเล่นเชื้อเพลิงในสถานบริการ ก็เป็นห่วงว่า จะเกิดเหตุร้ายซ้ำกับผับดังที่กรุงเทพฯได้ ที่น่าห่วงอีกอย่างคือการปล่อยโคมลอย ซึ่งเป็นกิจกรรมยอดนิยมที่ทางผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวใน จ.เชียงใหม่ นิยมใช้เป็นจุดขายดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาปล่อมโคมลอยขึ้นฟ้าคืนละเป็นจำนวนมากซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ทั้งเที่ยวผับ ดื่มสุรา และปล่อยโคมนั้นเสี่ยงอย่างมากต่อการเกิดอุบัติภัยและเพลิงไหม้ นายวิชิต กล่าวว่า เพื่อเป็นการรับมือกับอุบัติภัยรุนแรงที่จะเกิดขึ้น ทีมกู้ภัยพิงค์นครจึงได้เตรียมแผนความพร้อมสำหรับรับมือกับอุบัติภัยช่วงเทศกาลโดยทำงานแบบบูรณาการร่วมกับจังหวัด อำเภอ ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานอย่างรอบด้าน ขณะนี้ได้เพิ่มกำลังอาสาสมัครให้เตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มรถตรวจการเต็มอัตราศึกคือที่ 24 คันและตรวจเช็คอุปกรณ์และติวเข้มอาสามัครที่ผ่านการอบรมทักษะกู้ภัยกู้ชีพอย่างเต็มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง คาดว่าหากเกิดเหตุหลังเที่ยงคืนถึงรุ่งเช้าซึ่งเป็นเวลาของการเกิดเหตุส่วนใหญ่ก็จะสามารถเรียกระดมอาสาสมัครที่มีความพร้อมเข้าไปหนุนกำลังปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐได้ทันที
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook