เริ่มนับคะแนนเลือกตั้งซ่อม ส.ส. 26 เขต

ภายหลังเวลาเปิดหีบเลือกตั้งซ่อมสมาชิกาสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 29 คน 26 เขต 22 จังหวัด ในเวลา 15.00 น. ที่ จ.สุพรรณบุรี ตลอดทั้งวันที่ผ่านมายังไม่พบการกระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งที่ ขณะที่บางหน่วยเลือกตั้งหลังจากที่ตรวจสอบผู้มาใช้สิทธิ์อย่างถูกต้องและได้ทำการเริ่มนับคะแนนกันแล้ว จากการสังเกตพบว่าพรรคชาติไทยพัฒนาทั้ง 2 เขตของ จ.สุพรรณบุรี มีคะแนนนำคู่แข่งอยู่ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะทราบผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการไม่เกิน 24.00 น. ของวันนี้ (11 มกราคม)

ส่วนที่ จ.อุดรธานี เขตเลือกตั้งที่ 2 ขณะนี้เป็นไปด้วยความคึกคักมีประชาชนออกมารอดูการนับคะแนนการเลือกตั้งแต่ละหน่วยคาดว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิ์ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ จากผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด 326,762 คน ทั้งนี้ นายสาคร รอดขันเมือง ผู้อำนวยการการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.อุดรธานี เขตเลือกตั้งที่ 2 กล่าวว่าจะสามารถประกาศผลการนับคะแนนและรวบรวมคะแนนอย่างไม่เป็นทางการได้ในเวลา 20.00 น. จากทั้งหมด 659 หน่วยเลือกตั้ง โดยทั่วไปมีเหตุการณ์ปกติไม่มีการกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งแต่อย่างใด

จ.นราธิวาส เป็นไปอย่างคึกคักได้มีประชาชนทยอยมาคอยลุ้นเวลาปิดหีบเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งได้ประกาศปิดหีบบัตรพร้อมกับเตรียมนับคะแนนยังหน่วยเลือกตั้งทันที โดยได้มีกำลังเจ้าหน้าที่คอยดูแลรักษาความปลอดภัยให้อย่างเข้มงวด ซึ่งเจ้าหน้าที่มั่นใจว่าจะนับคะแนนให้แล้วเสร็จก่อนเวลา 18.00 น.

ว่าที่ ร.ต.ทวี ชุนเกาะ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำ จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า กกต.จังหวัดได้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากตำรวจภูธรภาค 3 จ.นครราชสีมา พร้อมสนับสนุนกำลังอีกกว่า 360 นาย จากที่มีตำรวจในพื้นที่แล้ว 1,800 นาย เพื่อช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยและป้องกันความวุ่นวายช่วงนับคะแนนตามหน่วยเลือกตั้งของเขตเลือกตั้งที่ 2 และเขตเลือกตั้งที่ 4 โดยคาดว่าจะทราบผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการไม่เกินเวลา 18.00 น. ของวันนี้ ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ยังไม่พบปัญหาความรุนแรงและการกระทำผิดกฎหมาย โดยคาดยอดผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งครั้งนี้ไม่ถึงร้อยละ 70

นายสมชาติ เจศรีชัย รองเลขาธิการฝ่ายบริหารคณะกรรมการการเลือกตั้ง แถลงการรับแจ้งเบาะแสการทุจริตเลือกตั้งตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม จนถึงขณะนี้ว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 25 เรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องการทุจริตเลือกตั้งของ ส.ส. จำนวน 17 เรื่อง โดยเป็นเรื่องการแจกทรัพย์สินมากเป็นอันดับ 1 ถึง 11 เรื่อง การโฆษณาใส่ร้ายผ่านคลื่นวิทยุการข่มขู่จากหัวคะแนนการจัดยานพาหนะรับส่งผู้มีสิทธิ์ไปฟังปราศรัยการติดป้ายหาเสียงของผู้สมัครใกล้กับคูหาเลือกตั้งการยึดบัตรประชาชนและการที่มีบุคคลแปลกปลอมเข้าไปยืนหลังคูหาอย่างละ 1 เรื่อง