เตือนทักษิณหยุดสู้-สารภาพผิดเชื่อคนไทยให้อภัย

เตือนทักษิณหยุดสู้-สารภาพผิดเชื่อคนไทยให้อภัย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
(10ม.ค.) พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ และอดีตรักษาการประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.)ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับ ลวง พราง ผ่านสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลมาเป็นพรรคประชาธิปัตย์ว่า ไม่ถือว่า เป็นความสำเร็จ หรือเป้าหมายของคมช. คิดว่า คือธรรมชาติ และ เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาระบบในประเทศไทยโดยไม่ใช่เป้าหมายของคณะปฏิรูป เพราะมันเป็นของมันเอง และต้องเป็นต่อไปอีกในอนาคต การปฏิวัติในขณะนั้น คิดว่า หากไม่ทำจะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย ซึ่งเมื่อทำแล้ว ไม่ได้ต้องการอำนาจใดๆ เพราเราให้คนที่เราคิดว่า สามารถปกครองดูแลด้วยความยุติธรรมได้ เพื่อให้ประเทศชาติก้าวเดินต่อไป และหากคนใดทำผิด ก็ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ไม่ได้ใช้อำนาจคณะปฏิรูปมาจับกุมหรือยึดทรัพย์สิน หรือไต่สวนโดยไม่ถูกกฎหมาย เราจึงทำตรงนี้ออกมา เพื่อให้เกิดความยุติธรรมมากที่สุด

เมื่อถามว่า ในครั้งปฏิวัติคิดหรือไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะหยุดการต่อสู้ พล.อ.อ. ชลิต กล่าวว่า เราไม่รู้จิตใจคน ที่ผ่านมาเขาบอกว่าเขาจะหยุดแล้ว แต่จนมาถึงวันนี้จะเห็นว่า สิ่งที่พูดไม่ใช่อย่างนั้น แต่ถือเป็นธรรมชาติของคนที่ต้องปกป้องตัวเอง เพราะคนเราต้องต่อสู้พยายามทำให้หลุด แต่การที่จะทำให้หลุดจากกฎหมายนั้น ไม่ทำให้หลุดได้ แต่หากไม่ผิดกฎหมาย เขาก็ต้องหลุด ซึ่งขณะนี้กระบวนการยุติธรรมกำลังดำเนินการ ส่วนการบริหารทุกคนต่างอยากขึ้นมาเป็นนายกฯหรือรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติในประเทศที่พัฒนา

// //

เมื่อถามว่า คมช.มองแนวคิดของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีต่อสถาบันอย่างไร พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่ทราบเรา คนเราหยั่งรู้จิตใจแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เขาไม่พูด แต่เวลาและสถานการณ์ต่างๆจะคลี่คลายเองว่า คนเราคิดและมุ่งหวังอยากจะทำอะไร และทำไมถึงพูดหรือไม่พูดอะไร เพราะความลับไม่มีในโลก

เมื่อถามว่า พ.ต.ท. ทักษิณ มองว่า คมช.อยู่เบื้องหลังทำให้เขาต้องเป็นอย่างนี้ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า อิทธิพลที่จะทำให้แต่ละคนทำมาถึงจุดนี้ คือ ความถูกต้องในหมู่คนไทย และความยุติธรรมทำให้เป็นอย่างนี้ ใครจะไปบังคับได้ คมช.จะไปบังคับตุลาการได้อย่างไร เพราะแต่คนมีองค์ความรู้มาก ทุกอย่างจะเห็นว่า ดำเนินไปตามกฎหมาย ถ้าไม่มีข้อมูลศาลจะนำมาเป็นข้อพิจารณาตัดสินได้อย่างไร ความจริงจะค่อยๆปรากฏออกมา แต่สาเหตุที่ผลของคดีไม่ออกมาในสมัยรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพราะหากจะทำให้ยุติธรรมต้องใช้เวลาตรวจสอบมาก แต่คนไทยใจร้อนอยากเห็นผลเร็วๆ อยากให้เขาติดคุก ถ้าเขาไม่ผิด แล้วไปบีบบังคับให้เขาติดคุกถือเป็นบาปอย่างมหันต์

หากถามว่า สะใจไหม บอกได้ว่า ไม่สะใจ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตัวของท่านเอง เพราะถ้าท่านเลือกทำด้านอื่นคือ สารภาพผิด ยอมรับความผิด ท่านก็ถูก และถ้าท่านร้องขอความปราณีก็ได้ ผู้นำประเทศ70-80 ปีโดนปฏิวัติหรือถูกล้มล้างมากมาย แต่ไม่เห็นมีใครเป็นอะไร คนไทยที่เคยเป็นผู้นำประเทศทำทั้งความดี ความชั่วอาจมีบ้าง แต่คนไทยให้อภัย และใช้เวลาไม่นาน บางทีให้เงินเพื่อครองชีวิตในต่างประเทศก็มี ความจริงพ.ต.ท.ทักษิณ ควรจะหยุด หากพิจารณานั่งนิ่งๆ แล้วคิดสัก 2 วัน โดยไม่ให้คนเข้าไปรบกวนจะกลับเข้ามาสู่พื้นฐานของชีวิต และความปกติ แต่เมื่อไรคนยังป้อยอ ให้ข้อมูลว่ายังไงก็ชนะ ยังไงก็กลับ คงไม่มีทางเพราะขณะนี้คือการสู้กับความจริงพล.อ.อ.ชลิต กล่าว

เมื่อถามว่า พ.ต.ท. ทักษิณ มองว่า เป็นแผนบันได 4 ขั้นของคมช. พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่รู้ เพราะสมัยที่ประชุมกัน ไม่เคยกำหนดว่า จะมีบันได 4 ขั้น อาจจะเป็นเพียงข้อคิดหรือสเต็ปอะไรต่างๆ แต่ไม่ได้คิดเป็นขั้นๆ เหมือนกับเป้าหมายของพรรคคอมมิวนิสต์ และไม่ได้มีการคุยกันว่า ต้องล้างระบอบทักษิณอะไร เพียงแต่ต้องการหยุดสถานการณ์ มีรัฐธรรมนูญที่ดี และต้องการรื้อฟื้นการเลือกตั้ง ไม่ค่อยมีประเทศไหนที่จะมีคนมีเงินมมากมายมหาศาลขนาดนี้แล้วไปสนับสนุนให้คนในพรรคได้มาจนถึงทุกวันนี้ มีเพียงประเทศไทย จึงต้องย้อนกลับไปว่า ทำไมถึงมีเงินมากมายขนาดนั้น และมาจากไหน มาได้อย่างไร ซึ่งขณะนี้ทางอังกฤษเขายอมรับแล้ว แสดงให้เห็นว่า กฎหมายและความจริงปรากฏออกมาว่า คุณไปทำอะไรมา

เมื่อถามว่า ปัญหาความแตกแยกของในชาติที่หนักขึ้นเพราะพ.ต.ท. ทักษิณ ใช่หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า คล้ายๆอย่างนั้น บางทีสาเหตุเพราะคนๆเดียวที่เป็นประเด็นต่างๆ ทำให้เกิดสิ่งต่างๆขึ้น เมื่อถามว่าการเปลี่ยนขั้วมาเป็นรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า รัฐบาลมีหน้าที่ในการบำรุงเทศให้กินดีอยู่ดี หน้าที่รัฐบาลมีอยู่แค่นั้น แต่อะไรที่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ทำให้กินดีอยู่ดีไม่ได้ ก็จะเกิดการต่อต้าน รัฐบาลต้องเข้มแข็งให้ถูกบทบาท ไม่ใช่รุนแรงไปเลย เช่น การยิงแก๊สน้ำตา ตนไม่คิดว่า กองทัพไทยหรือตำรวจได้ซ้อมยิงในช่วงระยะเวลา 30-40 ปีที่ผ่านมา

เมื่อถามว่า มองปรากฏการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรที่ผ่านมาอย่างไร พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า เพราะเป็นคนไทย ที่อื่นทำไม่ได้หรอก คาดว่า เขาอยู่ด้วยความอดกลั้นมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อถึงจุดหนึ่งไม่รู้ทำอย่างไร เขาจึงออกไปสู่สาธารณชน แต่เขาอยู่ในกฏเกณฑ์ที่ดี ถือเป็นนักประท้วงที่มีอารยธรรม ผู้คนที่มาถามว่า ถ้าจ้างวันละ 500 บาท ใครจะเอาเงินที่ไหนมาจ้าง ดังนั้นต้องไปด้วยใจเท่านั้น คนที่มามีความรู้ มีฐานะ มีความนึกคิดต่างๆพอสมควร เมื่อถามว่า มีคนมองว่า คมช.มีความสัมพันธ์กับกลุ่มพันธมิตรนั้น พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ตนไม่เคยรู้จัก เห็นแต่เพียงในทีวี และคมช.ก็ไม่เคยรู้จัก คิดว่า คนอย่างพวกนั้น ถ้าเราใช้เขา แต่เขาไม่ได้อยากทำ เขาคงไม่ทำ แต่ที่เขาทำเพราะความกดดันของประชาชนในประเทศที่เริ่มไม่พอใจกับผู้นำจึงเริ่มขยายเครือข่าย ซึ่งถือเป็นธรรมชาติ

เมื่อถามว่า มองบทบาทกองทัพที่ถูกวิจารณ์ว่า เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า มันดีกว่าการปฏิวัติหรือไม่ ภาระเรื่องการดูแลประเทศชาติ ไม่ใช่นักการเมืองอย่างเดียว และทุกคนมีสิทธิ์ที่จะให้ประเทศชาติเราเป็นอย่างไรไม่ใช่ปล่อยการเมืองเลยยิ่งแย่ เชื่อว่าในอนาคตคงจะดีขึ้น และทหารก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกชอบใคร เพราะเป็นประชาธิปไตย แต่ไม่ควรทำให้เกิดความไม่ยุติธรรม

เสียงเล็กๆ นวันเด็กขอนายกฯช่วยคนไทยรักกัน

วันเด็กแห่งชาติปีนี้...ผู้ปกครองต่างพาบุตรหลานไปเที่ยวชมตามสถานที่ต่างๆ ที่เปิดเป็นพื้นที่ต้อนรับเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะ ทำเนียบรัฐบาล ที่เคยโอ่อ่ากว้างใหญ่ กลับแคบลงไปถนัดตา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook