แถลงการณ์ไทยพีบีเอส

แถลงการณ์ไทยพีบีเอส

แถลงการณ์ไทยพีบีเอส
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรื่องความเห็นคัดค้าน (ร่าง) ประกาศ กสทช.เรื่อง หลักเกณฑ์การกำกับดูแลเนื้อหารายการฯวันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๖

เรียนคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

ตามที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ร่าง) ประกาศกสทช.เรื่อง หลักเกณฑ์การกำกับดูแลเนื้อหารายการในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ….นั้น คณะกรรมการนโยบายองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.)หรือไทยพีบีเอสได้นำเนื้อหาของ(ร่าง) ประกาศหลักเกณฑ์ฯ นี้มาพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว

คณะกรรมการนโยบายไทยพีบีเอสจึงมีมติคัดค้าน(ร่าง) ประกาศหลักเกณฑ์ฯ ฉบับนี้เนื่องจากมีเนื้อหาสาระในหลักเกณฑ์และการกำกับดููแลฯส่วนใหญ่ มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนที่ได้รับการรับรองโดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพ.ศ.๒๕๕๐และละเมิดความเป็นอิสระของสื่อสาธารณะของไทยพีบีเอสที่ได้รับการรับรองภายใต้ พ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยพ.ศ. ๒๕๕๑

คณะกรรมการนโยบายไทยพีบีเอสตระหนักดีถึงภาระหน้าที่ความรับผิดชอบของคณะกรรมการกสทช.ตามมาตรา ๓๗ ใน พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์พ.ศ.๒๕๕๑ ในการกำกับเนื้อหารายการของสื่อกระจายเสียงและสื่อโทรทัศน์ที่มีผู้ผลิตจำนวนมากที่ผลิตเนื้อหาที่ละเมิดต่อจริยธรรมการประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนเข้าข่ายการหลอกลวงประชาชน หรือเป็นภัยคุกคามต่อสาธารณชนสถาบันพระมหากษัตริย์และความมั่นคงของประเทศ

อย่างไรก็ตามเนื้อหาตาม (ร่าง)ประกาศหลักเกณฑ์ฯ ฉบับนี้มีรายละเอียดที่ควบคุมการทำงานด้านสื่อมวลชนของสื่อกระจายเสียงและสื่อโทรทัศน์อย่างเคร่งครัดในหลากหลายประเด็นโดยกำหนดให้ผู้ถือใบอนุญาตของกสทช.เป็นผู้กำกับดูแลการฝ่าฝืนหลักเกณฑ์เหล่านี้ อาจมีโทษสูงสุดคือการถอนใบอนุญาตการประกอบกิจการฯจึงเห็นได้ว่า(ร่าง) ประกาศหลักเกณฑ์ฯ นี้จำกัดสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนและเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมููลข่าวสารของประชาชน ซึ่งเป็นการสวนทางกับกระแสสังคมเสรีประชาธิปไตยและขัดแย้งต่อบริบทของประเทศไทยซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกที่ให้ความสำคัญต่อการแสดงออกด้านความคิดเห็นของประชาชนและเสรีภาพสื่อมวลชน

ไทยพีบีเอสเกิดขึ้นตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพ.ศ.๒๕๕๐เพื่อให้มีสื่อสาธารณะที่ส่งเสริมเสรีภาพการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเพื่อสร้างสังคมประชาธิปไตยบริการข่าวสารที่เที่ยงตรง รอบด้าน ซื่อตรงต่อจรรยาบรรณวิชาชีพโดยยึดถึงผลประโยชน์สาธารณะเป็นสำคัญและส่งเสริมความรู้แก่ประชาชนให้ทันความเปลี่ยนแปลงของโลกตามที่กำหนดไว้ในมาตรา ๗ วัตถุประสงค์การจัดตั้งไทยพีบีเอส
ของ พ.ร.บ. องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยพ.ศ. ๒๕๕๑

นอกจากนั้นพ.ร.บ.ฉบับนี้กำหนดให้ไทยพีบีเอสมีข้อบังคับด้านจริยธรรมวิชาชีพและบทลงโทษการละเมิดจริยธรรมวิชาชีพของตนเองมีกลไกการรับเรื่องร้องเรียนของประชาชนผ่านคณะอนุกรรมการรับและพิจารณาเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่มีองค์ประกอบของอนุกรรมการจากบุคคลภายนอกเพื่อพิจารณาในกรณีที่มีพนักงานองค์การหรือลูกจ้างที่ละเมิดจริยธรรมวิชาชีพ

ไทยพีบีเอสจึงเป็นองค์กรสื่อสาธารณะที่มีกลไกการควบคุมจริยธรรมวิชาชีพสื่อมวลชนที่เป็นไปอย่างเคร่งครัด เป็น ระบบและครบถ้วน

ดังนั้น การกำหนดหลักเกณฑ์ฯและการกำกับดูแลดังกล่าวข้างต้น จึงเป็นการละเมิดต่อวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งองค์กรและเป็นการแทรกแซงกลไกการควบคุมจริยธรรมในการประกอบกิจการสื่อสาธารณะของไทยพีบีเอสซึ่งกำหนดไว้ใน มาตรา ๕๖ ของ พ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ที่ห้ามมิให้มีการดำเนินการที่ขัดขวางหรือแทรกแซงองค์การที่ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ขององค์การตามมาตรา ๗ การจัดตั้งสถานีไทยพีบีเอสและให้บริการผลิตสื่อ ตามมาตรา ๘การให้อำนาจองค์การดำเนินกิจการ ตามมาตรา ๙ หรือข้อบังคับด้านจริยธรรมวิชาชีพตามมาตรา๔๒

ตามอำนาจหน้าที่ในมาตรา ๒๘ (๒)ที่กำหนดคณะกรรมการนโยบาย มีหน้าที่ คุ้มครองความเป็นอิสระของ คณะกรรมการบริหารผู้อำนวยการ และพนักงานให้ปราศจากการแทรกแซงใดๆ คณะกรรมการนโยบายไทยพีบีเอสจึงขอคัดค้านต่อ (ร่าง) ประกาศหลักเกณฑ์ฯ ฉบับนี้และยืนยันการปกป้องสิทธิเสรีภาพสื่อสาธารณะของไทยพีบีเอสเพื่อประโยชน์สูงสุดในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนอย่างแท้จริง

หาก กสทช.นำ(ร่าง)ประกาศหลักเกณฑ์ฯฉบับนี้ออกมาบังคับใช้ ไทยพีบีเอสมีความจำเป็นที่จะต้องขอสงวนสิทธิ์นำประกาศนี้ยื่นตีความทางกฎหมายที่เกี่ยวเนี่องกับความขัดแย้งกันในแนวทางปฏิบัติงานเนื่องจากพนักงานไทยพีบีเอสยังจำเป็นต้องยึดหลักปฏิบัติงานตามเจตนารมณ์ของพ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๑

เนื่องจาก (ร่าง) ประกาศหลักเกณฑ์ฯดังกล่าว ขัดต่อหลักการปฏิรูปสื่อ ที่เคารพสิทธิและเสรีภาพการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของประชาชนและขัดต่อปรัชญาวิชาชีพสื่อมวลชนในระบอบประชาธิปไตย คณะกรรมการนโยบายจึงขอสนับสนุนข้อเสนอของ ๔ องค์กรวิชาชีพสื่อ ประกอบด้วยสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ที่ได้ยื่นต่อ สำนักงาน กสทช. เพื่อให้เพิกถอน(ร่าง) ประกาศหลักเกณฑ์ฯฉบับนี้จากกระบวนรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ และให้ กสทช.นำกลับไปพิจารณาทบทวนความชอบด้วยกฎหมายความสอดคล้องกับการประยุกต์ใช้ในทางวิชาชีพ หรืออาจจัดทำร่างฉบับใหม่ที่มีความสมบูรณ์และถูกต้องตามกฎหมายซึ่งต้องจัดให้เกิดการมีส่วนร่วมกันอย่างกว้างขวางทั้งนักวิชาการนักวิชาชีพ ผู้ได้รับผลกระทบจากประกาศ และผู้มีหน้าที่ในการกำกับดููแลนี้อย่างครอบคลุมทุกภาคส่วนของสังคมต่อไป


ขอแสดงความนับถือ
คณะกรรมการนโยบายองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย
รศ.มาลี บุญศิริพันธ์ ประธานกรรมการ
ผศ.ดร.จุมพล พูลภัทรชีวิน กรรมการ
นายศิริชัย สาครรัตนกุล กรรมการ
ศ.วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ กรรมการ
ศ.ดร.ปราณี ทินกร กรรมการ
รศ.ดร.ธีรภัทร สงวนกชกร กรรมการ
ดร.สมพันธ์ เตชะอธิก กรรมการ
นางสมศรี หาญอนันทสุข กรรมการ
นางสุวรรณา จิตประภัสสร์ กรรมการ


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook