กรุงเทพฯเมืองหนังสือโลก...เดินหน้าสร้าง "นักอ่าน"

ความพยายามในการปลุกกระแสให้คนไทยรักการอ่านอย่างแพร่หลาย และกระตุ้นให้อ่านหนังสือกันมากขึ้นโดยเฉลี่ยอย่างน้อยคนละ 15 เล่มต่อปี เป็นพันธกิจ "เมืองหนังสือโลก" ของกรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่ายส่งเสริมการอ่านกว่า 100 ภาคี ที่ยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่องและจริงจัง นับแต่ได้รับเลือกจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ให้เป็นเมืองหนังสือโลก (Bangkok World Book Capital 2013) 

ในวันนี้กิจกรรมส่งเสริมการอ่านเกิดขึ้นอย่างหลากหลาย ทั้งสาระ ความบันเทิง และการแบ่งบัน ถูกจัดขึ้นตลอดทั้งปีและยาวไปถึงปีหน้า ตามแนวคิด "อ่านกันสนั่นเมือง" เพื่อเปิดโอกาสให้คนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนได้เข้าร่วมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่ในหอสมุดของมหาวิทยาลัย ห้องสมุดโรงเรียน ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ ห้องสมุดคนตาบอด บ้านหนังสือในชุมชน รถห้องสมุดเคลื่อนที่ รถเมล์ ขสมก. รถแท็กซี่ ร้านหนังสือ TK Park มุมอ่านหนังสือในอาคารสถานที่ที่หน่วยงานและภาคีเครือข่ายฯ ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อให้บุคลากรในองค์กรและประชาชนทั่วไปได้อ่านหนังสือ รวมทั้งกิจกรรมที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ตามห้างสรรพสินค้า ชุมชน งานหนังสือ และในหน่วยงานต่างๆ ซึ่งสามารถติดตามกิจกรรมส่งเสริมการอ่านได้ทาง www.bangkokworldbookcapital2013.com และ www.facebook.com/bkwbc2013
ล่าสุดระหว่างวันที่ 17-23 กรกฎาคม 2556 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์คึกคักไปด้วยครอบครัวนักอ่าน ภายในงาน "เทศกาลหนังสือ ครอบครัวนักอ่าน ครั้งที่ 2 " โดยได้รับเกียรติจาก พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นประธานเปิดงาน มีกิจกรรมประกอบด้วย วัดระดับการอ่าน ปันการอ่าน นักษัตรพยากรณ์ วงล้อพิศวง หนังสือซ่อนรหัส คำศัพท์ปริศนา แชะแอนด์แชร์ งาน D.I.Y. หนังสือทำมือ ที่คั่นหนังสือ และการ์ด เทศกาลนิทานในสวนกระดาษ กิจกรรมทั้งหมดนี้มุ่งสร้างสรรค์จินตนาการ ปูพื้นฐานจากครอบครัว ด้วยการเชิญชวนสมาชิกทุกคนในครอบครัวมาร่วมสร้างนิสัยรักการอ่าน มุ่งสู่ความรู้อย่างสนุกในทุกด้านและเปิดโลกความคิดอันไร้ขอบเขตผ่านตัวหนังสือร่วมกัน

เสวนาโต๊ะกลม "4Gens อ่านกันสนั่นเมือง" จัดขึ้นเมื่อ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยคณะศิษย์เก่าจุฬาฯ ณ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเชิญนักอ่าน นักเขียน นักธุรกิจ และผู้ที่อยู่ในวงการหนังสือ ตัวแทนคนไทย 4 วัย ได้แก่ Gen B(อายุ 45-63ปี), Gen X(อายุ 30-44ปี), Gen Y(อายุ 9-29ปี) และ Gen Z(อายุ 1-16ปี) มาระดมสมอง ร่วมสร้างการอ่านให้เป็นวัฒนธรรม กระตุ้นคนไทยอ่านหนังสือมากขึ้น

เนื่องในวันอาสาฬหบูชา มีการจัดงาน "ตักบาตรหนังสือดี" ครั้งที่ 16 ขึ้นในวันที่ 19 กรกฎาคม ณ หน้าศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า ราชประสงค์ เพื่อมอบหนังสือให้แก่มูลนิธิพอ.สว. ช่วยเหลือโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ ขณะเดียวกันเครือข่ายเพื่อนหนังสือยังมีกิจกรรม "ปล่อยหนังสือ" อย่างต่อเนื่อง หมุนเวียนไปตามที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ติดตามได้ทาง https://www.facebook.com/bookfriendnetwork

สำหรับการสร้างนักอ่านหน้าใหม่ภายใต้กิจกรรม "พี่ชวนน้องอ่านกันสนั่นเมือง" ช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.นี้ ได้เชิญชวนเด็ก เยาวชน และประชาชน เข้าร่วมกิจกรรม"ท่องแหล่งเรียนรู้ เปิดประตูสู่การอ่าน" ณ ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ของกรุงเทพมหานคร โดยเมื่อ 12 ก.ค.ณ ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ทุ่งครุ ได้พบกับคุณปาลิตา โกศลศักดิ์ (ปลา) ดารารับเชิญจากสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง ๗ มาร่วมเสวนา "I do Idol" แรงบันดาลใจสู่การอ่าน โดยมุ่งหวังให้เด็ก เยาวชน เกิดความสนใจและเห็นถึงคุณค่าของการอ่าน จากนั้น 15 ก.ค.ณ ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ ห้วยขวาง พบกับนักเขียนและนักวาดภาพประกอบการ์ตูน เป็นการเปิดโลกการอ่านให้กับเด็กผ่านความสนุกของ การ์ตูน 2 ส.ค. ณ ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้คลองสามวา เป็นการพบกับนักเขียนนวนิยาย เรื่องสั้น วรรณกรรมเยาวชนชื่อดัง พร้อมทีมงาน มาร่วมกันเสวนาพูดคุยจูงใจให้เด็กๆ สนใจอ่านหนังสือ เพื่อหาวิธีเอาชนะความขี้เกียจในการอ่าน และชักชวนให้เด็กๆ นำเสนอความคิดผ่านมุมมองจากท้องถิ่น "วิถีชนคนสามวา" ผ่านหนังสือ Big Book ขนาดใหญ่ และ 9 ส.ค. ณ ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้บางขุนเทียน จะได้พบกับกิจกรรม Book Talk : ศิลปะกับการอ่าน โดยวิทยากรที่เชี่ยวชาญด้านศิลปะ และมีเทคนิคการเล่านิทานที่จะทำให้เด็กสนุกสนานไปกับการอ่าน

เข้าสู่สิงหาคมเดือนแห่งวันแม่ มีกิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่เกี่ยวข้องกับแม่มากมาย อาทิ การตักบาตรหนังสือ หนังสือดีเพื่อแม่ ห้องสมุดวันแม่ ในห้องสมุดชุมชนกทม. กิจกรรมแนะนำหนังสือ "แม่ลูกชวนกันอ่าน" เป็นต้น
กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ภายใต้แนวคิด "อ่านกันสนั่นเมือง" มิใช่การเปลี่ยนวิธีจากการอ่านเงียบๆ มาเป็นอ่านดังๆ แต่เป็นความพยายามของกรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่ายส่งเสริมการอ่านที่จะสร้างนิสัยรักการอ่านให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ไม่สำคัญว่าจะอ่านที่ใด เมื่อไร อ่านแบบOffline หรือOnline หนังสือประเภทอะไร และเล่มหน้าขนาดไหน เพียงแค่เริ่มต้นอ่าน อ่านให้มากขึ้น และชวนบุคคลรอบๆ ตัวมาอ่านหนังสือ ก็จะรับรู้ถึงคุณค่าของการอ่านได้น่าอัศจรรย์