สำนักข่าวประเทศจีนรายงานว่า ชาวจีนในโลกออนไลน์กำลังวิพากษ์วิจารณ์บาร์แห่งหนึ่งในเมืองลี่เจียง มณฑลยูนนาน ซึ่งมีตกแต่งและประดับสิ่งของเฟอร์นิเจอร์แบบเอเชีย รวมทั้งมีการทำรูปปั้นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ปางสมาธิ แต่มีสีกาเปลือยนั่งคร่อมอยู่บนร่าง ใช้เป็นฉากประกอบหลังเวทีการแสดงดนตรี ซึ่งทำให้เกิดความไม่พอใจในกลุ่มพุทธศาสนิกชน

ตามรายงานระบุว่า บาร์ดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณถนนซินหัว เขตเมืองเก่าของนครลี่เจียง สถานบันเทิงแห่งนี้ตกแต่งคล้ายโรงเตี๊ยมโบราณที่จำลองเป็นอาคารไม้ มี 2 ชั้น และมีลานโล่งไว้สำหรับแสดงดนตรี ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นที่ตั้งของ พระพุทธรูปที่มีสีกาเปลือยนั่งคร่อมอยู่ ความสูงราวๆ 4 เมตร ซึ่งเจ้าของบาร์ได้ตั้งเป็นคอนเซ็ปต์ว่า "แฮปปี้บุดด้า" หรือ "พระพุทธรูปแห่งความสุข"

นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตบางรายได้นำเรื่องราวมาแชร์ต่อว่า เกิดความเชื่อในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวดื่มที่บาร์ดังกล่าว อ้างว่าหากอยากจะประสบความสำเร็จและมีโชคเรื่องความรักหรือเพศสัมพันธ์ ควรจะมาลูบที่องค์พระพุทธรูปและขอพร ซึ่งเชื่อว่าจะสมปรารถนาตามที่หวัง

สำหรับ พระพุทธรูปองค์ดังกล่าว ยังมีรายงานข่าวลือระบุว่า มีราคาสูงกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งทางเจ้าของบาร์ นายหลิน ได้ออกมาชี้แจงว่า ราคาไม่ได้สูงถึงขนาดนั้น และเหตุที่นำองค์พระพุทธรูปมาตั้งไว้ในบาร์ ก็เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีความสุขสมหวังกับเรื่องความรัก ซึ่งจะนำพาไปสู่เส้นทางชีวิตคู่

อย่างไรก็ตาม พระพุทธรูปที่มีสีกาเปลือยนั่งคร่อมอยู่ ทำให้กลุ่มคนในโลกไซเบอร์ รู้สึกไม่ค่อยพอใจกับสิ่งที่เกิดเหตุ หลายฝ่ายเห็นว่าเป็นการลบลู่ศาสนา แค่การนำเอาพระพุทธรูปไปตั้งไว้ในสถานที่อโคจรก็ค่อนข้างผิดแล้ว ทั้งประเทศจีนยังเป็นเมืองที่นับถือพระพุทธเจ้า นับเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างยิ่งในสังคมจีน

สำหรับ พระพทุธรูปปางสมาธิมีสีกาเปลือยนั่งคร่อมอยู่ เป็นพระพุทธรูปปางหนึ่งของนิกายตันตระยาน ซึ่งได้รับอิทธิพลจากศาสนาฮินดู เรียกว่า "ยับยุม" ใช้เป็นตัวแทนระหว่างปัญญา (เพศชาย) และความเมตตา (เพศหญิง) ที่ต้องมีควบคู่กัน เพื่อให้บรรลุธรรมที่แท้จริง โดยการเสพกิเลสทุกชนิดจนเกิดความเบื่อหน่าย ก่อนจะคลายกิเลสและหลุดพ้นในที่สุด

อัลบั้มภาพ วิจารณ์ยับ! พระพุทธรูปสาวนั่งคร่อม โผล่กลางผับเมืองจีน ภาพที่ 1 / 2

วิจารณ์ยับ! พระพุทธรูปสาวนั่งคร่อม โผล่กลางผับเมืองจีน

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

พระพุทธรูปสาวนั่งคร่อม ที่แท้เป็นนิกายตันตระ