ผบ.ทบ.ลงใต้เข้มดูสงกรานต์ยันถกBRNไทยต้องได้เปรียบ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวันนี้ ว่า จะเดินทางหามาตรการและมอบนโยบายในการดูแลประชาชนในพื้นที่ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว ซึ่งจะต้องดูแลอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งจะไปอวยพรวันสงกรานต์ให้กำลังคนในพื้นที่มีความสุข ส่วนการพูดคุยกับกลุ่ม BRN นั้น ยืนยันว่า การพูดคุยรัฐบาลจะต้องได้เปรียบ โดยจะไม่ให้ความสำคัญกับกลุ่มใดเป็นพิเศษ แต่ความสำคัญอยู่ที่ว่า จะทำอย่างไรให้พื้นที่สงบสุข อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่จะไม่ใช้ความรุนแรงในพื้นที่ จะดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมาย ทั้งนี้ ขอเตือนให้เจ้าหน้าที่รัฐ ต้องระมัดระวังให้มากขึ้น เนื่องจากขณะนี้ ตกเป็นกลุ่มเป้าหมายของผู้ก่อความไม่สงบ  ผบ.ทบ.ถึงใต้แล้วติดตามคืบหน้าคดีสำคัญ ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคที่ 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยข้าราชการระดับสูง และความคืบหน้าคดีสำคัญ หลังจากการประชุมเสร็จสิ้นในวันนี้ ในช่วงบ่าย ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วยคณะ ก็จะได้เดินทางไปพบปะกับพี่น้องชาวไทยมุสลิม ที่มัสยิดกลาง จ.ยะลา อีกด้วย  นายกฯสั่งมท.1เข้มการข่าวใต้ชัด2มือบึ้มรองผวจ.ยะลา นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า จากการลงพื้นที่ภาคใต้ กับ นายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้เพิ่มความระมัดระวังด้านการข่าวรวมถึงเร่งรัดทางคดี และสร้างขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกัน ระบุว่า การแยกประเภทของหมู่บ้านใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. หมู่บ้านที่เกิดเหตุซ้ำซาก ที่พบกว่า 10% ให้ กอ.รมน. เป็นผู้รับผิดชอบ 2. หมู่บ้านที่มีความเคลื่อนไหว 20% ให้ ศอ.บต. เป็นผู้ดูแล และ 3.หมู่บ้านสงบสุข 60% ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับผิดชอบ ทั้งนี้ จะเปิดรับอัตรา อส. อีก จำนวน 2,700 อัตรา โดยจะคัดกรองและกำหนดคุณสมบัติแบบชัดเจน ซึ่งเชื่อว่าจะได้การข่าวเพิ่มมากขึ้นด้วย ส่วนคดีอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นั้น ได้เร่งรัด ให้เครือข่ายกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ติดตามแล้ว โดยขณะนี้ พบผู้ต้องสงสัยแล้ว 2 ราย และในวันนี้ จะมีความชัดเจนมากขึ้น โดยยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่บุคคลภายในจะรู้เห็นการเสียชีวิต แต่ต้องอย่าจับแพะ ส่วนการตั้งค่าหัวอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดนั้น ยังเป็นแค่กระแสข่าว กุนซือเฉลิมเชื่อยิงถล่มนัจมุดดีนไม่โยงถกBRN พ.ญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา แกนนำกลุ่มวาดะห์ ที่ปรึกษา ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ กรณีคนร้ายยิงระเบิด M79 เข้าใส่บ้านอดีต ส.ส.นราธิวาส เนื่องจากได้เข้ามาเป็นที่ปรึกษาให้ รองนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม ว่า ไม่น่าเกี่ยวข้องกัน เพราะบ้านของ นายนัจมุดดีน อูมา ถูกกระทำในลักษณะนี้ 2-3 ครั้งแล้ว คาดว่า เป็นเรื่องของผู้ก่อเหตุไม่สงบในพื้นที่ ต้องการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงมากกว่า และเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการพูดคุยสันติภาพ เพราะกระบวนการเพิ่งเริ่มต้น ยังต้องมีการพูดคุยกันอีกมาก เพราะปัญหาในภาคใต้มีหลายมิติที่ยังต้องแก้ไข ต้องทำควบคู่ไปกับการพูดคุยสันติภาพ เพื่อให้เกิดสันติสุขอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ในการไปพูดคุยสันติภาพครั้งต่อไป ในวันที่ 29 เมษายนนี้ ทางฝั่งไทยคงไม่ต้องปรับท่าที ซึ่งในการสร้างความไว้วางใจกันทั้ง 2 ฝ่ายนั้น ต้องใช้เวลา เหมือนที่ต่างประเทศ ต้องใช้เวลานับ 10 ปี ดังนั้นปัญหาชายแดนภาคใต้เพิ่งจะเริ่มต้นกระบวนการสันติภาพเท่านั้น ตร.เชื่อบึ้มอดีตรองผวจ.ยะลาฝีมือลูกน้องอับดุลเลาะพล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้า คดีลอบวางระเบิดรถยนต์ นายอิศรา ทองธวัช อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ว่า ผู้ที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.ธารโต กับ อ.บันนังสตา และเป็นกลุ่มที่มีความเชื่อมโยงกับ นายอับดุลเลาะ ปูลา คนร้ายที่ถูกจับกุมไว้ก่อนหน้านี้ โดยมี นายยาซะ ยานยา นายอิบรอฮิม เจะหะ และ นายซายูตี สูเด็ง ร่วมก่อเหตุครั้งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังติดตามอยู่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ยังได้กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องที่มีการสังสัยกันว่า การเสียชีวิตของ รอง ผวจ.ยะลา จะมีเกลือเป็นหนอนนั้น เมื่อดูแผนประทุษกรรมของคนร้ายในคดีความมั่นคง ที่ผ่านมา ก็ไม่ต้องเกลือเป็นหนอน คนร้ายก็สามารถเลือกเป้าหมายได้อยู่แล้ว                ส.ส.ยะลาจี้รัฐทบทวนการพูดคุยสันติภาพใหม่ นายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส.จังหวัดยะลา เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส.ส.ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้หาทางแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาโดยตลอด สิ่งที่ทาง สมช. และรัฐบาล ที่ได้ไปพูดคุยสันติภาพกับกลุ่ม บีอาร์เอ็น รัฐบาลน่าจะไปทบทวนกันใหม่ เพราะการพูดคุยทำให้สถานการณ์รุนแรงมากขึ้นไปอีก เช่น การพูดคุยเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 28 มีนาคม และที่กำลังจะมาถึง ปรากฏว่า มีเหตุความรุนแรงเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ทำให้มีความสงสัยว่า เมื่อมีการพูดคุยเจรจากันแล้ว ทำไมสถานการณ์จึงมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา สมช. และรัฐบาล พูดเหมือนกันหมดเลยว่า ที่ผ่านมาเป็นการพูดคุยไม่ใช่การเจรจา จึงมีคำถามอยู่ว่า ที่ไปกันนั้นไปพูดคุยกันเรื่องอะไร ถ้าไม่ใช่เรื่องให้หยุดยุติความรุนแรง รัฐบาลต้องการเวลาอีกเมื่อไหร่จึงจะเข้าสู่การเจรจาได้ และทำไมจึงหยุดการก่อเหตุรุนแรงไม่ได้ หากรัฐบาลไม่มีหลักที่แน่นอน ก็คงจะแก้ไขปัญหาไม่ได้เช่นเดียวกัน 'ศรีสมภพ' เผย ไฟใต้คุไม่เกี่ยวคุยสันติภาพ นายศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี และหนึ่งในตัวแทนพูดคุย กลุ่ม BRN เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สถานการณ์การรุนแรงในภาคใต้ขณะนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการพูดคุยสันติภาพ เนื่องจากการพูดคุยยังไม่ถึงขั้นทำการตกลงเพื่อยุติความรุนแรงระหว่างกัน อีกทั้ง เดือนมีนาคม ถึง เดือนเมษายน ของทุกปี เป็นวันครบเหตุการณ์ กือเซะ ตากใบ อาจเป็นไปได้ว่า สถานการณ์ความรุนแรงที่พุ่งสูงขึ้น เป็นการแสดงออกถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนการก่อเหตุในช่วงนี้ ที่พุ่งเป้าไปที่กองกำลัง และเจ้าหน้าที่รัฐ ก็เป็นสิ่งที่น่าคิดว่า เป็นสัญญาณตอบรับอะไรบางอย่างหรือไม่ แต่ยังสรุปไม่ได้ เนื่องจากข้อมูลยังไม่ชัดเจนนอกจากนี้ นายศรีสมภพ ยังกล่าวถึง กรณีการลอบวางระเบิดบ้าน นายนัจมุดดีน อูมา ที่ปรึกษาส่วนตัวของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้ยังถกเถียงกันอยู่ว่า เป็นฝีมือของฝ่ายใด แต่เชื่อว่าเป็นฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการพูดคุยสันติภาพ และน่าจะเกี่ยวข้องกับการที่ นายนัจมุดดีน เป็นส่วนหนึ่งในการเจรจา ส่วนการเลื่อนพูดคุยกับมาเลเซีย ในวันที่ 29 เมษายนนี้ ยังไม่ได้รับการยืนยัน และเชื่อว่า ไม่มีผลกระทบเกิดขึ้นหากมีการเปลี่ยนรัฐบาล เพราะมาเลเซียอยากให้มีความสงบ และไม่ใช้การสร้างภาพของพรรคอัมโน แน่นอน