''ดนตรี'' ชีวิตที่เติมเต็ม ของ ''เฮียบอย''
โดยนิสัยฝึกนั่งสมาธิมาตั้งแต่วัยรุ่น เพราะคุณพ่อวางยุทธวิธีให้สนใจในเรื่องศาสนา และฝึกให้เข้าห้องพระมาตั้งแต่เด็ก เวลาไปเที่ยวก็จะเป็นทัวร์วัดซะมากกว่าทัวร์สวนสนุก วันนี้ได้นำกลยุทธ์ด้วยกันนี้มาใช้กับทายาท ถือเป็นมรดกทางความคิดที่ตกทอดกันมา
อีกบทบาทหนึ่งของ เฮียบอย ที่อาจจะไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก แต่จัดที่ไรเป็นงานใหญ่ทุกที ก็เฮียแกเล่น แท็กทีมกับเพื่อนร่วมรุ่น ตั้งแต่ลูกชายอาจารย์กฤษดา อรุณวงศ์ ณ อยุธยา อีกคนก็โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และอีกคนเป็น ซีอีโอ บริษัท โลหะกิจฯที่เพิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯไปได้ไม่นาน ร่วมกันตั้งวงดนตรีชื่อ BTS มาได้ 3 ปีแล้ว โดยเฮียบอยจะจัดคอนเสิร์ตครั้งใหญ่เล่นแค่ปีละครั้งในสไตล์ Rock & Roll
เฮียบอยบอกว่า มนุษย์ทุกคนต้องมีดนตรีในหัวใจแล้วจะไปปฏิเสธมันทำไม ตัวเฮียบอยเองชอบเล่นดนตรีมาตั้งแต่วัยรุ่น โดยเฉพาะกีตาร์ พอเพื่อนสนิทที่เล่นดนตรีมาด้วยกันชวนกันตั้งวง ก็โอเคทันที เคยมีหลายคนทัก เฮียบอยวัยกลับหรือเปล่า เพราะส่วนตัวก็ช่วยทำงานศาสนา วันๆเห็นแต่นั่งสมาธิวิปัสสนา เป็นคนธรรมะธัมโม ทำไมมาเล่นดนตรี
อ้าว!!! ดนตรีก็เป็นส่วนสำคัญให้ชีวิตชุ่มชื่น เฮียเฉลยให้ว่า และถึงบางอ้อ เมื่อเฮียบอยบอกว่า ถือว่าได้ เติมเต็มความฝัน
สำหรับคอนเสิร์ตในรอบปีนี้เฮียบอยปิดโรงแรมเล่นไปแล้ว ที่ At Siam ปีนี้เล่นให้กลุ่มเพื่อนๆฟัง เป็นแนวป๊อปร็อกเพราะอายุเยอะ ๆกันแล้ว พอมี Heavy Metal ยุค 70 มาแทรกเป็นระยะๆบ้าง
ผลพลอยได้ที่เกิดตามมาจากความหลงใหลในดนตรี คือการสะสมกีตาร์ ที่เฮียบอย บอกว่า วันนี้ มีอยู่ 10 กว่าตัว ราคาไม่ต้องพูดถึงว่ากี่ตังค์เพราะสะสมไว้ด้วยความชอบ และไม่ได้เป็นแค่กีตาร์ที่ตั้งโชว์ไว้อย่างเดียว แต่เฮียบอยเอาไปดีดเล่นบ่อยๆกับเพื่อนๆและวง BTS ที่ขยันซ้อมกันทุกวันเสาร์ เอาจริงเอาจังยิ่งกว่านักดนตรีมืออาชีพ นอกจากนี้สะสมพระเครื่อง แต่เฮียสรุปทิ้งท้ายเป็นคติให้ฟังว่า สิ่งที่สะสมที่ดีที่สุด คือ สะสมความดี และอยู่กับเรายาว ตายแล้วก็ยังมีสิ่งดีๆให้คนพูดถึงเกี่ยวกับตัวเรา
เช่นเดียวกันความสุข เฮียบอย บอกว่า ความสุขมันไม่ได้อยู่ไกลตัว มันอยู่ที่ตัวเราเอง ตรงนี้และเดี๋ยวนี้ ทุกลมหายใจที่เรามีอยู่ ถ้าเรามีสติ และรู้ตัวเองอยู่ และวางใจได้ดี ตัวเราก็มีความสุข ไม่ต้องไปไขว้คว้าที่ไหน