หนุ่มหื่นพิศวาสสาวใหญ่ ลวงไปข่มขืนหลังวัด

หนุ่มหื่นพิศวาสสาวใหญ่ ลวงไปข่มขืนหลังวัด

หนุ่มหื่นพิศวาสสาวใหญ่ ลวงไปข่มขืนหลังวัด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(8 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่าน น.ส.ก้อย (นามสมมติ) อายุ 42 ปี ได้เดินเข้ามาร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในสภาพสะบักสะบ่อม ร่างกายมีร่องรอยถูกทำร้าย

น.ส.ก้อย เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ก่อนเหตุเกิดเมื่อช่วงบ่าย ตนกำลังนั่งเล่นอยู่กับลูกวัย 6 ขวบ อยู่ภายในห้องเช่า ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั่นแบ่งให้เช่า ส่วนสามีออกไปทำงานยังไม่กลับ ต่อมา นายต่าย ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง อายุประมาณ 30 ปี เช่าห้องพักอยู่ชั้นบน เพิ่งรู้จักในฐานะเพื่อนบ้านได้แค่ 2 เดือน เข้ามาบอกว่า ให้ตนช่วยขับรถจักรยานยนต์พาไปเอาของที่บ้านเพื่อนในซอยวัดแคเป็นเพื่อน ตนเห็นว่าเป็นคนคุ้นเคยพบเจอกันทุกวัน จึงฝากลูกกับคนข้างห้องและพานายต่ายไป

ตลอดทางที่ขับจักรยานยนต์ไป นายต่าย พยายามนั่งเบียด นำตัวมาประชิดตน ตนจึงต่อว่าไปหลายครั้ง จนกระทั่งขับรถมาถึงที่ด้านหลังวัดแค เป็นทางที่รถจักรยานยนต์วิ่งเข้าไม่ได้ นายต่าย จึงออกปากให้เดินไปเป็นเพื่อนกัน เดินเข้าไปเพียง 100 เมตร พบกระท่อมร้างกลางป่าหญ้าทึบ ก่อนที่ นายต่าย จะใช้กำลังฉุดตนเข้าไปในกระท่อม พร้อมกับใช้มีดข่มขู่บังคับให้ถอดเสื้อผ้า ตนพยายามเกลี้ยกล่อมแต่ไม่สำเร็จ

นายต่าย จึงใช้กำลังทำร้ายร่ายกายตนเอง ทุบกำปั้นเข้าบริเวณท้องและลงมือข่มขืนกระทำชำเรา พร้อมกับบอกว่าจะโทรศัพท์เรียกเพื่อนอีก 5 คนมารุมโทรมด้วย เมื่อตนถูกข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ นายต่ายได้ยึดเอากุญแจรถจักรยานยนต์กับกระเป๋าเงินของตนไป และเตรียมที่จะลงมือข่มขืนอีกครั้ง ตนจึงฮึดสู้ ใช้เท้าถีบเข้าที่หน้าอกอย่างแรง จนนายต่ายล้มลง ก่อนที่ตนจะกระโดดออกจากกระท่อมและตะโกนเรียกให้ชาวบ้านช่วยเหลือ

อย่างไรก็ตาม เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเรื่อง จึงได้ประสานกำลังออกตามจับกุมนายต่ายทันที แต่ปรากฎว่าคนร้ายไหวตัวทัน เก็บเสื้อผ้าหลบหนีออกไปได้อย่างหวุดหวิด ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนหาชื่อและนามสกุลจริงของคนร้าย เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook