แม่อำมหิต! ฆ่าลูกสาวด้วยวิธีอดอาหารตายช้าๆ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุฆาตกรรมสุดสลดขึ้นที่เมืองเดย์ตัน รัฐโอไอโอ สหรัฐอเมริกา เมื่อแม่รายหนึ่งฆ่าลูกสาววัย 14 ปีของตัวเอง ที่ป่วยพิการทางสมอง ด้วยการปล่อยให้ลูกสาวอดอาหารอย่างทรมาน จนเสียชีวิตในที่สุด

ตามรายงานระบุว่า คุณแม่ใจร้ายรายนี้คือ แองเจล่า นอร์แมน อายุ 42 ปี ถูกจับกุมและดำเนินคดีฐานปล่อยปละละเลยและเจตนาฆ่าผู้อื่น หลังจากที่ลูกสาววัย 14 ปีที่ป่วยพิการทางสมอง ถูกพบว่าเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน เมื่อวันที่ 1 มีนาคมปีที่แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า เด็กสาวมีน้ำหนักตัวเหลือแค่เพียง 13 กิโลกรัมเท่านั้น

ผลจากการชันสูตรศพพบว่า เด็กสาวเสียชีวิตจากการขาดสารอาหารอย่างรุนแรงและถูกปล่อยปละละเลยในส่วนของการรักษาโรคทางสมองที่ซับซ้อน จนเป็นเหตุทำให้เสียชีวิตอย่างน่าสลด

อย่างไรก็ตาม คุณแม่ใจอำมหิตได้ยอมรับสารภาพในเวลาต่อมา หลังจากคดียืดเยื้อมาแรมปี โดยเธออ้างว่าเป็นการฆาตกรรมแบบไม่ตั้งใจ อีกทั้งยังเชื่อมโยงไปถึง 3 ผู้เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตลูกสาว ที่น่าเศร้าพวกเขาทั้งหมดเป็นพยาบาลรับจ้าง ได้แก่ โมลลี่ พาร์สันส์, แคทเธอรีน วิลเลียมส์ และ แมรี่ คิลบีย์

โดยเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า เด็กสาวที่เสียชีวิตจะถูกกักขังไว้ภายในบ้าน ซึ่งมีแม่ใจร้าย กับ พยาบาลพาร์สันส์ค่อยดูแล ขณะที่พยาบาลวิลเลียมส์มีหน้าที่ประเมินและตรวจสอบพัฒนาการร่างกายของเด็กสาวทุก 30-60 วัน ส่วน พยาบาลคิลนีย์มีหน้าที่ประเมินสุขอนามัยภายในบ้านและความเหมาะสมของผู้แล ซึ่งทั้งหมดมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการปล่อยให้เด็กสาวอดอาหารจนเสียชีวิต

คดีดังกล่าวกลายเป็นคดีสะเทือนขวัญที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น และคุณแม่ใจร้ายรายนี้ เตรียมขึ้นต่อสู้กับศาลช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ โดยเจ้าหน้าที่ตั้งวงเงินประกันตัวของเธอไว้สูงถึง 7.5 ล้านบาท