บุญทรงแจงแก้ของแพงอาหารสดถูกลง50%ส่งคนดูราคาต่อ

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวผ่านรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน เช้าวันนี้ ว่า ได้มีการแก้ปัญหาราคาสินค้าแพง โดยอาหารสำเร็จรูป ได้กำหนดราคาแนะนำ 10 เมนู เมื่อ 15กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยราคาข้าวแกง 1 ชนิด ราคาอยู่ที่ 20 - 25 บาท สูงสุดไม่เกิน 30 บาท พร้อมกับนำราคาแนะนำไ ปกระจายให้ร้านอาหารต่างๆ ประมาณ 4,000 แห่งทั่วประเทศ ในกรุงเทพมหานครและปริมาณฑล แต่อาจจะยังไม่ครอบคลุมครบทุกจุด นอกจากนี้ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าในตลาดสด ซึ่งพบว่า ราคาสินค้าอาหารสดได้ปรับลดราคาลงเกือบ 50% เช่น เนื้อสุกร ตั้งแต่เดือนมกราคม ที่ผ่านมา ได้รับการร้องเรียนมีราคาสูง ล่าสุด เมื่อ 22 มีนาคม ได้ปรับลดลง 10 % หรืออยู่ที่ 100 - 110 บาทต่อกิโลกรัม และขณะนี้กำลังตรวจสอบถึงสาเหตุที่ราคาหมูมีการปรับขึ้นในช่วงนี้ ตั้งแต่เกษตรกรผู้เลี้ยงที่มีต้นทุนที่ถูกลง แต่ผู้บริโภคยังซื้อในราคาที่สูงอยู่ ซึ่งระหว่างทางก่อนจะถึงหน้าเขียงมีความผิดปกติในขั้นตอนใด หากพบจะเชิญหารือพร้อมกับปรับราคาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อไป ทั้งช่วยในส่วนของลดต้นทุนผู้เลี้ยงและผู้ขาย รวมไปถึงผู้บริโภค ได้ซื้อในราคาที่เป็นธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังกล่าวถึงกรณีกรุงเทพโพล ไม่มั่นใจการแก้ปัญหาค่าครองชีพประชาชนของรัฐบาล ว่า ในขณะนี้ ทางกระทรวงพาณิชย์ ได้ปฏิบัติงานหนักมาก มีการใช้เครื่องมือที่มีอยู่เข้ามาช่วยในการดูแลราคาสินค้า เช่น กฎหมาย เพื่อกำหนดราคาสินค้าให้อยู่ในราคาที่เหมาะสม โดยสินค้าที่ควบคุมได้มีทั้งหมด 42 รายการ นอกจากนี้ ยังมีการติดตามดูแลราคาสินค้าประมาณ 205 รายการ ในทุกความเคลื่อนไหว ไม่ให้ผิดปกติจากท้องตลาด โดยกระทรวงฯ ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยผู้บริโภค เพื่อควบคุม ตรวจสอบ ไม่ให้เอาเปรียบผู้บริโภค และกำลังจะเปิดตัว อาสาสมัครพาณิชย์ หรือ "อาสาพาณิชย์" จำนวน 5,000 คน มาทำหน้าที่สอดส่องดูแลราคาสินค้า หากพบความผิดปกติ กักตุนสินค้า แอบปรับขึ้นราคาเพื่อเอาเปรียบประชาชน ถือว่าผิดกฎหมาย จะมีการดำเนินการขั้นเด็ดขาด ส่วนการตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลราคาสินค้า ขนส่ง และโลจิสติกส์ รวมถึงการเงินที่มีธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. มาช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชนนั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างเตรียมการโครงการโชห่วยช่วยชาติ ซึ่งที่ผ่านมาโชห่วยปิดกิจการไปหลายรายแล้ว เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันกับโมเดิร์นเทรดได้ แต่ยังมีเหลืออีกเป็นจำนวนมากที่ยังอยู่ได้ และได้มีการเชิญชวนเข้าร่วมโครงการ โดยคาดว่าจะเริ่มร้านโชห่วยช่วยชาติ ได้เร็วสุดต้นเดือนเมษายนนี้ 1 แห่ง มีลูกค้าประมาณ 1,000 รายต่อเดือน ช่วยลดค่าครองชีพประชาชนได้ประมาณ 300 กว่าบาทต่อเดือน รวมถึงจะมีการสนับสนุนการผลิตสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ชื่อ "ถูกใจ" เน้นเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคอีกด้วย เนื้อหมูตลาดสดยิ่งเจริญปรับเพิ่มขึ้น5-7บ.ตามหน้าฟาร์ม จาการสำรวจราคาเนื้อสัตว์ที่ตลาดยิ่งเจริญ พบว่า ราคาเนื้อหมูในสัปดาห์นี้ ปรับเพิ่มขึ้น 5 - 7 บาทต่อกิโลกรัม โดยหมูเนื้อแดง ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 105 - 110 บาท ซึ่งผู้ค้าเนื้อหมูกล่าวว่า ราคาเนื้อหมูที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นไปตามต้นทุนที่รับมาจากราคาหน้าฟาร์มที่เพิ่มขึ้น โดยราคาหน้าฟาร์มอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 - 54 บาท ปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 5 บาท ขณะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง เนื่องจากเป็นช่วงปิดภาคเรียน และประชาชนส่วนหนึ่งต้องนำเงินไปใช้ในการซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายจากสถานการณ์อุทกภัยในช่วงปลายปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าเนื้อหมูมองว่า หากรัฐบาลจะเข้ามาควบคุมราคาเนื้อหมู ควรควบคุมราคาหน้าฟาร์ม เพราะราคาหน้าเขียงต้องปรับขึ้นลงตามต้นทุนที่รับมา ซึ่งราคาเนื้อหมูในปัจจุบันไม่ถือว่าแพง เพราะที่ผ่านมา ราคาเคยปรับขึ้นไปถึงกิโลกรัมละ 140 บาท ขณะเดียวกันมองว่า ราคาที่เหมาะสมในปัจจุบัน ควรจะอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 110 - 120 บาท ราคาผักสดตลาดสดบางขุนศรี ปรับลดลง4 - 5 บ./ก.ก.จากการลงพื้นที่สำรวจราคาสินค้าในตลาดสดย่านฝั่งธนบุรี ในวันนี้ พบว่า ราคาสินค้าส่วนใหญ่ในสัปดาห์นี้ เริ่มปรับตัวลดลงมาจากสัปดาห์ที่ผ่านมาบ้างเล็กน้อย โดยราคาผักสดในวันนี้ ปรับลดลงมา 4 - 5 บาท ราคาผักบุ้งจีน อยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 20 บาท ราคาผักคะน้า อยู่ที่กิโลกรัมละ 35 บาท ส่วนราคาเนื้อไก่ในช่วงสัปดาห์นี้ ก็ปรับลดลงมาเช่นกัน โดยจากการสอบถามแม่ค้า พบว่า ราคาเนื้อไก่ในช่วงนี้ ปรับลดลงมา 4 - 5 บาท ทำให้ลงมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 75 บาท ขณะที่เนื้อหมู ราคายังคงทรงตัว ทำให้ราคาหมูเนื้อแดงขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 110 บาท และราคาหมูบดอยู่ที่กิโลกรัมละ 90 บาท ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ยอมรับว่า ราคาในช่วงนี้ปรับตัวลดลงมาแม้จะมีการควบคุมโดยทางกระทรวงพาณิชย์ แต่ก็เชื่อว่าการปรับขึ้นค่าแรงเป็น 300 บาทต่อวัน จะไม่กระทบต่อราคาสินค้า ราคาไข่ไก่ลดลง10 สต./ฟองจากต้นทุนถูกลง สถานการณ์ไก่ไข่ที่ตลาดยิ่งเจริญ ในสัปดาห์นี้ ลดลงฟองละ 10 สตางค์ โดยผู้ค้าไก่ไข่กล่าวว่า ราคาไก่ไข่ที่ลดลงเป็นผลมาจากต้นทุนที่รับมาถูกลง ซึ่งเป็นไปตามฤดูช่วงหน้าร้อน ประกอบกับปิดภาคเรียน ทำให้ความต้องการลดลง ขณะที่ปริมาณไก่ไข่ในท้องตลาดมีจำนวนมากขึ้น ทั้งนี้ผู้ค้ากังวลว่ าหากรัฐบาลเข้ามาควบคุมพ่อค้าคนกลาง อาจทำให้ไม่มีผู้รับไก่ไข่จากฟาร์มออกมาจำหน่ายส่งให้กับผู้ค้า ซึ่งจะส่งผลให้ไม่มีสินค้ามาวางจำหน่ายให้กับผู้บริโภค นอกจากนี้ ในส่วนของราคาผักสด พบว่า หลายชนิดราคาทรงตัว ทั้งพริกสด คะน้า และผักกาด มีเพียงมะนาว ที่ราคายังสูง อยู่ที่ลูกละ 7 - 10 บาท ซึ่งก็เป็นไปตามฤดูกาล