ธุรกิจรับมือQ1 ปีฉลู > แบรนด์ดังงัดสารพัดแคมเปญปลุกกำลังซื้อชิงลูกค้า
ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซายังเป็นปัจจัยแวดล้อมสำคัญที่นักการตลาดต้องคำนึงถึงอยู่ตลอดเวลา แม้ปี 2552 จะถูกคาดการณ์ว่าเป็นปีแห่งวิกฤติรอบด้าน แต่ธุรกิจยังคงต้องเดินหน้าต่อเนื่อง กลยุทธ์การทำตลาดในไตรมาสแรกจึงเป็นถือเป็นการออกสตาร์ตที่ท้าทาย
โดยนายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยฮา จำกัด(มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ข้าวหอมมะลิ วุ้นเส้น ธัญพืชภายใต้ตราเกษตร เปิดเผยกับ ฐานเศรษฐกิจ ว่า จากนโยบายการอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ คาดว่าจะช่วยสร้างความมั่นใจกับผู้บริโภคได้ในระดับหนึ่ง ประกอบกับความวุ่นวายทางการเมืองเริ่มคลี่
คลายไปทิศทางที่ดีขึ้น แม้ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะไม่ค่อยดีนัก ส่งผลให้กำลังซื้อในไตรมาสแรกของปี 2552 ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังคงมีความระมัดระวังการใช้จ่าย โดยจะใช้จ่ายเฉพาะสินค้าที่มีความจำเป็นเท่านั้น ขณะที่ภาพรวมตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคนั้น ยังมีการเติบโตที่ดี
ทั้งนี้ในส่วนของบริษัทนั้น ได้ใช้แผนแนวรุกด้วยการขยายช่องทางจำหน่ายเพิ่มจากเดิม โดยได้แต่งตั้งดิสตริบิวเตอร์หรือผู้กระจายสินค้าในส่วนของผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปทั้งโจ๊กและวุ้นเส้น เพื่อขยายช่องทางร้านค้าเพิ่มอีก 1.7 หมื่นร้านค้า และได้แต่งตั้งดิสตริบิวเตอร์สำหรับการกระจายข้าวถุงไปยังร้านค้ากว่า 5 หมื่นแห่งทั่วประเทศ เนื่องจากมองว่าในวิกฤติเศรษฐกิจ บริษัทจำเป็นต้องหาช่องทางใหม่ในการขยายสินค้าให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากสุด ขณะที่แผนกิจกรรมต่างๆ ยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ด้านนายชาลี จิตจรุงพร รองผู้อำนวยการสำนักการตลาด บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือไทยเบฟ ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์ช้าง กล่าวว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทจะรุกทำตลาดให้กับเบียร์ช้างดราฟต์เป็นตัวแรก โดยเริ่มต้นด้วยการโฆษณาผ่านสื่อบนรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งสาเหตุที่เลือกทำตลาดช้างดราฟต์เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระดับ
แมส มีราคาถูกก็เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังซื้อและรายได้ของผู้บริโภคที่ลดลง จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีขึ้น รวมทั้งคาดว่าในปีนี้ตลาดเบียร์ระดับอีโคโนมีหรือเบียร์ระดับล่างจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีนี้ด้วย
นางริสรวล อร่ามเจริญ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (ส.พ.จ.ท.) กล่าวถึงธุรกิจหนังสือในปีนี้คาดว่ายังมีการเติบโตเฉลี่ย 5% จากตลาดรวมมูลค่า 1.6-1.7 หมื่นล้านบาท จากที่เคยเติบโต 12-13% แต่ทั้งนี้การบริหารธุรกิจสำนักพิมพ์ต่างๆ ต้องสกรีนหนังสือมากพอสมควร และต้องมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น สำนักพิมพ์จะให้ความสำคัญกับการออกหนังสือใหม่ที่ตลาดเปิดรับ
ตอนนี้คงไม่คิดจะวัดดวง ว่าหนังสือที่ผลิตออกมาจะเวิร์กหรือไม่ ประเภทที่ว่า ขอพิมพ์รอบแรกก่อน แล้วถ้าติดตลาดจะพิมพ์เพิ่ม ประเภทนี้จะน้อยลง นางริสรวลกล่าวและว่า สำหรับนักเขียนหน้าใหม่ ซึ่งยังไม่มีฐานผู้อ่านหรือแฟนคลับ จะทำตลาดด้วยการนำเนื้อหาของตัวเองไปโพสต์ไว้ตามเว็บไซต์ ส่วนหนึ่งเพื่อการโปรโมต และอีกปัจจัยหนึ่งคือการลดความเสี่ยงในการทำตลาด ในปีนี้คาดว่าจะได้เห็นมากขึ้น
ขณะที่อุตสาหกรรมค้าปลีก เป็นอีกธุรกิจที่มีการแข่งขันรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงที่มีปัจจัยบวกจากโบนัสหรือเงินพิเศษปลายปี แม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ที่ทำให้กำลังซื้อคึกคักแต่ก็กระตุ้นให้ ผู้ประกอบการทุกค่ายต่างงัดกลยุทธ์การตลาดออกมาสร้างสีสัน จูงใจให้บรรดานัก
ช็อปเข้ามาใช้บริการจับจ่ายซื้อสินค้า โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ดังนั้นกลยุทธ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเซลส์ โปรโมชัน อีเวนต์ มาร์เก็ตติ้ง อย่าง วันเด็ก, ตรุษจีน, วาเลนไทน์ รวมถึงมิดไนท์เซลส์ จะเป็นไฮไลต์สำคัญ ในรูปแบบของฟิวชัน มาร์เก็ตติ้งที่ผสมผสานจนกลายเป็นบิ๊ก แคมเปญในที่สุด
นายฮิเดโนริ มัสสุอิ ประธานบริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า ในปี 2552 บริษัทวางแผนใช้งบประมาณสนับสนุนกิจกรรมการตลาดทั้งสิ้น 400 ล้านบาท โดยจะให้ความสำคัญในเรื่องของการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ไม่ผ่านสื่อหลัก เจาะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างครอบคลุม โดยจะโฟกัสไปที่กิจกรรมที่มีกิมมิกในการสร้างแรงดึงดูดกำลังซื้อผู้บริโภคที่ชะลอตัวอยู่ ณ เวลานี้ รวมถึงการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมในโอกาสครบรอบ 40 ปี อาทิ กิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม เช่น คืนผืนป่าสู่แผ่นดิน คืนช้างสู่ธรรมชาติ, แคมปัสทัวร์ โดยจะมีการให้ความรู้เทคโนโลยีไอทีในสถานศึกษาทั่วประเทศ รวมถึงกิจกรรมดนตรี, ศิลปะ, การศึกษา และกีฬา
พร้อมกันนี้จะมีการนำเสนอสินค้าใหม่ที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคอย่างครบวงจร และเปิดตัว โดราเอมอน ในการเป็นตัวแสดงโฆษณาของสินค้า (Representative of Toshiba Advertising) เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 40 ปี เพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้บริโภค และผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้น ภายใต้แนวความคิดการประหยัดพลังงาน และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
