ย้ายตี๋ขังเดี่ยวแล้วหลังนิพนธ์ซัดทอดเอี่ยวค้ายาพันล้าน

ย้ายตี๋ขังเดี่ยวแล้วหลังนิพนธ์ซัดทอดเอี่ยวค้ายาพันล้าน

ย้ายตี๋ขังเดี่ยวแล้วหลังนิพนธ์ซัดทอดเอี่ยวค้ายาพันล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายวิษณุ ประจงกิจ ผู้บังคับการเรือนจำกลางบางขวาง จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า ในวันนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้สนธิกำลังร่วมกับตำรวจภูธร ภาค 1 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จ.นนทบุรี กว่า 700 นาย เข้าตรวจค้นเรือนจำกลางบางขวาง จ.นนทบุรี ตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล โดยการตรวจค้นในครั้งนี้เป็นการตรวจค้น ทั้งหมด 7 แดน ประกอบด้วย แดน 2 ถึง แดน 6 แดน 8 และแดน 10 ซึ่งได้ทำการตรวจค้นทั้งภายในเรือนนอน และบริเวณโดยรอบ เพื่อตรวจหาสิ่งของต้องห้าม อาทิ โทรศัพท์มือถือ และยาเสพติด ส่วนกรณีที่ นายนิพนธ์ กันชาติ ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท ได้ให้การซัดทอดว่า มีผู้ต้องขังภายในเรือนจำกลางบางขวางมีส่วนเกี่ยวข้องนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า เบื้องต้น ภายหลังจากมีข่าวออกไปตามหน้าหนังสือพิมพ์ ว่า มีนักโทษในเรือนจำเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็ได้ทำการสืบสวนกลุ่มนักโทษเป้าหมายในเรือนจำ พร้อมทั้งได้มีการสั่งย้าย นักโทษชาย นายตี๋ ไปแยกขังเดี่ยว ในแดน 10 และให้ผู้คุมดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้มีกาติดต่อพูดคุยกับบุคคลอื่นได้ ทั้งนี้เบื้องต้น นายตี๋ ยังคงให้การปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดแต่อย่างใด ขณะที่ การพิจารณาคัดเลือกนักโทษคดียาเสพติด ไปอยู่ที่เรือนจำซูเปอร์แม็กนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณา พล.ต.ต.วิชัยแถลงปิดล้อมชุมชนค้นยาเสพติด พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ปล่อยแถวระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จำนวน 102 นาย และสุนัขตำรวจ เพื่อเข้าปิดล้อมตรวจค้นชุมชนในพื้นที่ชุมชนเป้าหมาย 3 จุด ได้แก่ ชุมชนนิคมมักกะสัน ชุมชนคลองส้มป่อย และชุมชนซอยสวนเงิน โดยการเข้าปิดล้อมรวจค้นในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อลดการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชน โดย พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการให้ทุกกองบังคับการ มีการปิดล้อมตรวจค้นชุมชนเป้าหมายทุกสัปดาห์ ทั้งนี้ จากการเข้าปิดล้อมตรวจค้นชุมชนคลองส้มป่อย เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายธงชัย แช่มช้อย อายุ 44 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 52 เม็ด เครื่องกระสุนปืน เงินสดจำนวนกว่า 40,000 บาท พร้อมอุปกรณ์การเสพยาบ้า จำนวน 2 ชุด ขณะที่ชุมชนซอยสวนเงิน เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย พร้อมอุปกรณ์การเสพยาบ้า ส่วนชุมชนนิคมมักกะสัน เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวชายต้องสงสัย หลังจากเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ ได้พยายามกระโดดน้ำหลบหนี แต่ถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวไว้ได้ โดยจะได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจหาสารยาเสพติดต่อไป ผบช.น.แถลงผลระดมกวาดล้างยาเสพติดพล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  แถลงผลการดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพื่อลดการแพร่ระบาดของยาเสพติดและปัญหาอาชญากรรม โดยเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จาก กองบังคับการตำรวจนครบาล 1-9 ได้ระดมกำลังปิดล้อมตรวจค้นชุมชนเป้าหมายทั่วกรุงเทพมหานคร รวม  18 แห่ง  ผลการปฏิบัติการ สามารถจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติดรวม 58 คน แบ่งเป็นคดีจำหน่ายยาเสพติด จำนวน 14 คน แยกเป็นคดีครอบครองเพื่อจำหน่าย จำนวน  12 คน เสพยาเสพติด  จำนวน  31 คน และจับกุมตามหมายจับคดียาเสพติดค้างเก่า จำนวน 3 คน นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจยึดของกลางได้ ยาบ้า 1,472 เม็ด ยาไอซ์ 39 กรัม กัญชา 2 ห่อ อาวุธปืน 6 กระบอก เครื่องกระสุน 178 นัดพร้อมกันนี้  พล.ต.ท.วินัย  กล่าวว่า ยืนยัน จะเร่งรัดจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม เพื่อกำจัดยาเสพติดให้สิ้นซาก โฆษก บช.น.แถลงนโยบายเชิงรุกปราบอาชญากรรมพันตำรวจเอก ปรีดา สถาวร โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงถึง มาตรการเชิงรุกในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ยาเสพติด และการจัดระเบียบสังคม สืบเนื่องจาก พลตำรวจโท วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  ได้กำหนดกรอบการดำเนินการไว้ 4 กรอบ  ประกอบด้วย 1.การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมพื้นฐานและงานสืบสวน  ได้แก่ การควบคุมระบบสายตรวจตั้งจุดตรวจ ฝึกทบทวนยุทธวิธีในการระงับเหตุ  ประสานงานความร่วมมือกับพนักงานรักษาความปลอดภัยและฝ่ายสืบสวน ให้ดำเนินการเร่งรัดจับกุมคดีสำคัญ คดีหมายจับค้างเก่า  ส่วนมาตรการที่สอง  คือการปราบปรามยาเสพติด ระดับ สน. โดยเน้นการจับกุมผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ สืบสวนขยายผลผู้เสพ เก็บรวบรวมข้อมูลในพื้นที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง  มาตรการที่สาม  คือ การจัดระเบียบสังคม กำหนดเป้าหมายในการดำเนินการ 8 เป้าหมาย  อาทิ  สถานบันเทิง  ร้านเกม อินเทอร์เน็ต เป็นต้น  รวมทั้ง เร่งกวดขันปราบปรามบ่อนการพนันอย่างต่อเนื่อง โดยมอบหมายให้แต่ละกองบังคับการ ปิดล้อมตรวจค้นสถานบริการ และชุมชน 1 ครั้งต่อสัปดาห์  นอกจากนี้  ให้ตำรวจชุมชนสัมพันธ์มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมในการแจ้งข้อมูลเบาะแสยาเสพติด  รวมถึงให้ตำรวจทุกหน่วยปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตสำนึก โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญต่อเด็กและเยาวชน   'เฉลิม'ยันตร.ไม่จัดฉากเวียนแถลงข่าวจับยา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณี นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดฉาก หรือ นำของกลางยาเสพติด มาเวียนแถลงข่าว ต่อเรื่องดังกล่าว ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวยืนยันว่า คงไม่มีใครทำ เพราะโทษคดียาเสพติดสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต ทั้งนั้น ในส่วนของกลาง ก็มีมาตรการในการจัดเก็บ และทำบัญชีชัดเจน พร้อมกันนี้ยังยืนยันด้วยว่า การปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ไม่มีการฆ่าตัดตอนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างแน่นอน แต่อาจเป็นผู้ต้องหารายใหญ่ ที่ถูกจับกุม จึงคิดว่า ถูกขบวนการค้ายาเสพติดด้วยกันหักหลัง ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการฆ่าตัดตอนกันเองได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook