ครม.ใช้ 117 ล.จัดงานเฉลิมในหลวง 5 ธ.ค.
นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันนี้ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติงบประมาณ ในการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2555 โดยใช้วงเงินในการจัดงานระหว่างวันที่ 3 - 9 ธันวาคม นี้ จำนวน 117 ล้านบาท พร้อมกันนี้ที่ประชุมยังได้มีมติ ในการแต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายจัดพิธีถวาย พระพรชัยมงคลงานมหรสพสมโภชและการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ โดยมี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
ครม.ผ่านโครงสร้างกองพลทหารราบที่ 15 วงเงิน 16,970 ล.
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอให้กองทัพบกเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการจัดตั้งกองพลทหารราบที่ 15 จากเดิมตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ถึงปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 วงเงิน 16,970 ล้านบาท เป็นตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ถึงปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 วงเงิน 18,032 ล้านบาท ตามแผนความต้องการงบประมาณดังนี้ งบประมาณด้านกำลังพล จำนวน 160 ล้านบาท งบประมาณด้านยุทธการการฝึกศึกษา และวิจัย จำนวน 80 ล้านบาท งบประมาณด้านส่งกำลังและซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ จำนวน 220 ล้านบาท งบประมาณ ด้านบริหารจำนวน 4 ล้านบาท งบประมาณด้านการก่อสร้างและสาธารณูปโภค 840 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการโครงการดังกล่าว เป็นการดำเนินการเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
ครม.รับทราบองค์ภาฯเป็นปธ.กมธ.แห่งสหประชาชาติ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมได้รับทราบกรณีที่ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา จะเป็นผู้แทนประเทศไทย เข้าดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการแห่งสหประชาชาติ ว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา สมัยที่ 21 โดยจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2554 - ธันวาคม 2555 อันเป็นการยกระดับการดำเนินการทางการทูตพหุภาคี อย่างสร้างสรรค์ และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย รวมถึงเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระองค์ท่านอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับความคาดหวังของประชาคมระหว่างประเทศ
รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ เห็นควรปรึกษาร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานข้าราชการพลเรือน ร่วมกันพิจารณาถวายตำแหน่งเอกอัครราชทูตให้กับ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งถือเป็นความปลาบปลื้มยินดีของพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศ
ครม.เห็นชอบแก้ร่างสัญญาซื้อก๊าซไทยมาเลย์
นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในการแก้ไขร่างสัญญาองค์กรร่วมไทย - มาเลเซีย เนื่องจากข้อสัญญาดังกล่าว เป็นการซื้อขายก๊าซธรรมชาติแปลงที่ B-17 & C-19 และ B-17-01 ในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย - มาเลเซีย ระหว่างบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท PC เจด้า ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ซื้อก๊าซ เนื่องจากตามสัญญาเดิม ทั้ง 2 บริษัท มีสิทธิ์ในการซื้อก๊าซได้บริษัทละร้อยละ 50 แต่ทางมาเลเซียไม่ได้เข้ามาซื้อก๊าซ ทำให้ทาง ปตท. รับซื้อก๊าซอยู่ในอัตราร้อยละ 100 แต่ปัจจุบัน ทางประเทศมาเลเซียต้องการกลับเข้ามาซื้อก๊าซตามสัญญาเดิมดังกล่าว จึงต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อการซื้อขายก๊าซเป็นไปในตามอัตราเดิมที่ 50 - 50
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังอนุมัติให้กรมทางหลวง ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีในการก่อสร้างทางพิเศษ สายเชิงเขาตะนาวศรี - กอกะเร็ก พร้อมกับปรับปรุงเส้นทางเดิม สายเมียวดี - ตะนาวศรี ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อประเทศพม่า วงเงินกว่า
1,000 ล้านบาท
ครม.อนุมัติแผนยุทธศาสตร์บริหารจัดการแรงงานนอกระบบ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนัก นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการแรงงานนอกระบบ เนื่องจากในปัจจุบันมีแรงงานนอกระบบกว่า 24 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 62.3 ของแรงงานทั้งหมด เนื่องจากแรงงานดังกล่าวยังไม่ได้รับสิทธิเท่าเทียมกับแรงงานในระบบ จึงได้วางแนวทาง 3 ยุทธศาสตร์ เพื่อช่วยเหลือ ประกอบด้วย การขยายขอบเขตการคุ้มครอง และสร้างหลักประกันที่มั่นคง การเสริมสร้างองค์ความรู้และพัฒนาสมรรถนะ รวมไปถึง
การเพิ่มสมรรถนะในการบริหารจัดการ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติอนุมัติร่างกฎกระทรวงคมนาคม ในการขอและออกใบอนุญาตการจัดตั้งสนามบิน แทนกฎกระทรวงเดิม ในปี 2550 เพื่อให้การขออนุญาตจัดตั้งสนามบิน สามารถแบ่งสนามบินได้เป็น 2 ประเภท คือสนามบินสาธารณะ และสนามบินส่วนบุคคล
ครม.ผ่านโครงสร้างกองพลทหารราบที่ 15 วงเงิน 16,970 ล.
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอให้กองทัพบกเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการจัดตั้งกองพลทหารราบที่ 15 จากเดิมตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ถึงปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 วงเงิน 16,970 ล้านบาท เป็นตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ถึงปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 วงเงิน 18,032 ล้านบาท ตามแผนความต้องการงบประมาณดังนี้ งบประมาณด้านกำลังพล จำนวน 160 ล้านบาท งบประมาณด้านยุทธการการฝึกศึกษา และวิจัย จำนวน 80 ล้านบาท งบประมาณด้านส่งกำลังและซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ จำนวน 220 ล้านบาท งบประมาณ ด้านบริหารจำนวน 4 ล้านบาท งบประมาณด้านการก่อสร้างและสาธารณูปโภค 840 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการโครงการดังกล่าว เป็นการดำเนินการเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
ครม.รับทราบองค์ภาฯเป็นปธ.กมธ.แห่งสหประชาชาติ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมได้รับทราบกรณีที่ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา จะเป็นผู้แทนประเทศไทย เข้าดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการแห่งสหประชาชาติ ว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา สมัยที่ 21 โดยจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2554 - ธันวาคม 2555 อันเป็นการยกระดับการดำเนินการทางการทูตพหุภาคี อย่างสร้างสรรค์ และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย รวมถึงเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระองค์ท่านอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับความคาดหวังของประชาคมระหว่างประเทศ
รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ เห็นควรปรึกษาร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานข้าราชการพลเรือน ร่วมกันพิจารณาถวายตำแหน่งเอกอัครราชทูตให้กับ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งถือเป็นความปลาบปลื้มยินดีของพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศ
ครม.เห็นชอบแก้ร่างสัญญาซื้อก๊าซไทยมาเลย์
นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในการแก้ไขร่างสัญญาองค์กรร่วมไทย - มาเลเซีย เนื่องจากข้อสัญญาดังกล่าว เป็นการซื้อขายก๊าซธรรมชาติแปลงที่ B-17 & C-19 และ B-17-01 ในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย - มาเลเซีย ระหว่างบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท PC เจด้า ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ซื้อก๊าซ เนื่องจากตามสัญญาเดิม ทั้ง 2 บริษัท มีสิทธิ์ในการซื้อก๊าซได้บริษัทละร้อยละ 50 แต่ทางมาเลเซียไม่ได้เข้ามาซื้อก๊าซ ทำให้ทาง ปตท. รับซื้อก๊าซอยู่ในอัตราร้อยละ 100 แต่ปัจจุบัน ทางประเทศมาเลเซียต้องการกลับเข้ามาซื้อก๊าซตามสัญญาเดิมดังกล่าว จึงต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อการซื้อขายก๊าซเป็นไปในตามอัตราเดิมที่ 50 - 50
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังอนุมัติให้กรมทางหลวง ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีในการก่อสร้างทางพิเศษ สายเชิงเขาตะนาวศรี - กอกะเร็ก พร้อมกับปรับปรุงเส้นทางเดิม สายเมียวดี - ตะนาวศรี ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อประเทศพม่า วงเงินกว่า
1,000 ล้านบาท
ครม.อนุมัติแผนยุทธศาสตร์บริหารจัดการแรงงานนอกระบบ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนัก นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการแรงงานนอกระบบ เนื่องจากในปัจจุบันมีแรงงานนอกระบบกว่า 24 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 62.3 ของแรงงานทั้งหมด เนื่องจากแรงงานดังกล่าวยังไม่ได้รับสิทธิเท่าเทียมกับแรงงานในระบบ จึงได้วางแนวทาง 3 ยุทธศาสตร์ เพื่อช่วยเหลือ ประกอบด้วย การขยายขอบเขตการคุ้มครอง และสร้างหลักประกันที่มั่นคง การเสริมสร้างองค์ความรู้และพัฒนาสมรรถนะ รวมไปถึง
การเพิ่มสมรรถนะในการบริหารจัดการ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติอนุมัติร่างกฎกระทรวงคมนาคม ในการขอและออกใบอนุญาตการจัดตั้งสนามบิน แทนกฎกระทรวงเดิม ในปี 2550 เพื่อให้การขออนุญาตจัดตั้งสนามบิน สามารถแบ่งสนามบินได้เป็น 2 ประเภท คือสนามบินสาธารณะ และสนามบินส่วนบุคคล