ประปาส่งสัญญาณ'สีเหลือง'เตือนคลองประปาคลองบางหลวง

ประปาส่งสัญญาณ'สีเหลือง'เตือนคลองประปาคลองบางหลวง

ประปาส่งสัญญาณ'สีเหลือง'เตือนคลองประปาคลองบางหลวง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การประปานครหลวง (กปน.) ได้ส่งสัญญาณเตือนว่า บริเวณท่อลอดคลองบางหลวง จำเป็นต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด หลังจากที่ น้ำจากรังสิตและนวนครได้ทะลักเข้าคลองประปา ตั้งแต่ 02.00 น.กลางดึกที่ผ่านมา
โดยจุดดังกล่าว เป็น 1 ใน 7 จุดที่อยู่ในแนวป้องกันน้ำท่วม ซึ่งแนวป้องกันแนวคลองประปา จำนวน 7 จุด ประกอบด้วย


1. จุดระบายลงคลองสาธารณะ (คลองสามเสน)

2. จุดระบายน้ำลงคลองสาธารณะ (คลองบางเขน)

3. สำนักงานใหญ่การประปานครหลวง และโรงงานผลิตน้ำบางเขน

4. คลองประปากิโลเมตรที่ 15 - 19

5. ท่อลอดคลองรังสิต (ไซฟอนรังสิต)

6. ท่อลอดคลองบางหลวง

7. สถานีสูบจ่ายน้ำดิบสำแล

ทั้งนี้ ได้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดใน 2 จุดสำคัญ คือ จุดที่ 5 บริเวณท่อลอดคลองประปารังสิต (ไซฟอนรังสิต) และ จุดที่ 7 สถานีสูบน้ำดิบสำแล

ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ นายเจริญ ภัสระ ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) เปิดเผยว่า การเตรียมรับมือนั้น ในกรณีฉุกเฉินได้จัดเตรียมกระสอบทรายไว้กว่า 40,000 ใบ สารเคมีเพื่อช่วยตกตะกอน พร้อมเครื่องเพิ่มออกซิเจนในน้ำ เพื่อตั้งรับกรณีเกิดภาวะฉุกเฉิน และที่สำคัญ กปน. ได้ประสานงานกับกรมชลประทาน และเครือข่ายเฝ้าระวังคุณภาพน้ำ ตั้งแต่จังหวัดนครสวรรค์ ลงมาถึงปทุมธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ

หากเกิดภาวะฉุกเฉินจะสามารถรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ประมาณ 3-5 วัน ทำให้มีเวลาเตรียมรับมือได้ทันท่วงที สำหรับบริเวณสถานีสูบน้ำดิบสำแล ซึ่งเป็นจุดรับน้ำดิบเพื่อนำมาผลิตน้ำประปาของ กปน. นั้น หากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงถึง 37.50 เมตร จะถือเป็นจุดเฝ้าระวัง ที่ กปน. ต้องเสริมระบบการป้องกันตามแผนที่เตรียมไว้ทันที เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อระบบการสูบน้ำดิบ ซึ่งจากข้อมูลปัจจุบัน (13 ก.ย.53) ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสถานีสูบน้ำดิบสำแล อยู่ที่ 37.16 เมตร จึงมั่นใจได้ว่า กปน. มีความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ได้จัดเจ้าหน้าที่และรถเคลื่อนที่ไว้เพื่อออกตรวจพื้นที่ และ เฝ้าระวังระดับน้ำตลอด 24 ชั่วโมง จึงขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า กปน. สามารถรับมือกับปัญหาน้ำในปีนี้ได้อย่างแน่นอน และน้ำประปาที่ผลิตได้ยังคงคุณภาพตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก (WHO) ทุกประการ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook