ศปภ.ยันน้ำทะลักนวนคร80%ไม่กระทบมธ.รังสิต

นายวิม รุ่งวัฒนจินดา โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. แถลงสถานการณ์น้ำในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร ว่า ขณะนี้น้ำได้เข้าท่วมบริเวณดังกล่าวเกินกว่าร้อยละ 80 ของพื้นที่แล้ว โดยเมื่อช่วงเช้าระดับน้ำสูงเกินกว่า 60 ซ.ม. พร้อมกับยืนยันว่า น้ำยังไม่ไหลเข้าท่วมพื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต และพื้นที่ตอนล่าง ขณะเดียวกันบริเวณคลองระพีพัฒน์แยกตก ได้ให้ทางกองทัพไทย เร่งเสริมพนังกั้นน้ำ เพื่อให้สามารถรับน้ำได้มากขึ้น และประสานงานให้มีการเปิดประตูระบายน้ำเพิ่ม เพื่อให้น้ำไหลออก ทางภาคตะวันออกของกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นการลดน้ำฝั่งตะวันตก อีกทั้งประชาชนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร ได้อพยพออกจาก พื้นที่อย่างปลอดภัยแล้ว และทาง ศปภ. ให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน คำนึงถึงชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นสำคัญ
น้ำทะลักนวนครอีกระลอก-ทหารสั่งอพยพด่วน
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ล่าสุด สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากทางกองทัพบก ได้รายงานว่า พนังกั้นน้ำที่บริเวณหน้าวัดพืชนิมิตร ภายในนิคมนั้นได้แตกเป็นบริเวณกว้างจากเดิม เพิ่มกว่า 30 เมตร ส่งผลให้น้ำจำนวนมากไหลทะลักเข้าท่วมภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนครจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ ทางกองทัพ ตลอดจนหน่วยกู้ภัยต่างๆ ได้สั่งให้กำลังเจ้าหน้าที่ ที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชนภายในนั้น ยุติการช่วยเหลือชั่วคราว และให้ถอนกำลังทันที โดยห้ามนำรถและเรือเข้าไปด้านในเด็ดขาด ส่งผลให้บรรยากาศที่บริเวณทางเข้านิคมอุตสาหกรรมนวนครเกิดความโกลาหลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้มีการประกาศทางเครื่องโทรโข่ง ให้ประชาชนตลอดจนสื่อมวลชน เก็บสิ่งของและออกมาอยู่ในที่ ที่ปลอดภัย
ขณะที่ นายกมล ทรัพย์ผล เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู กล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสานให้ทีมกู้ชีพด้านในถอนกำลังแล้ว เนื่องจากจำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปลอดภัย โดยในวันพรุ่งนี้จะมีการประเมินสถานการณ์ และกำหนดจุดเพื่อช่วยเหลืออีกครั้งหนึ่ง
คลองระพีพัฒน์แตกอีกยาว30ม.เร่งอพยพด่วน
ความคืบหน้าสถานการณ์คันกั้นน้ำพังที่บริเวณคลองระพีพัฒน์ระหว่างคลอง 3 และคลอง 4 หน้าเคหะระพีพัฒน์ 1 เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังมาช่วยอุดแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถต้านทานแรงของน้ำได้ เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรงมาก และได้กัดเซาะกินพื้นที่เพิ่มเป็น 30 เมตร แล้ว
ด้าน นายถาวร พงษ์กำเนิด ผู้อำนวยการกองช่าง อบต.คลอง 4 ผู้ควบคุมการทำงานบริเวณนี้ระบุว่า ในขณะนี้นั้นทำได้เพียงชะลอการไหลของน้ำ แต่ก็ยังไม่สามารถอุดได้ทั้งหมด เนื่องจากยังขาดกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลในการดำเนินการ ซึ่งขณะนี้มีเพียงพระจากวัดธรรมกายเท่านั้น ที่ช่วยนำทรายมาเสริม ทั้งนี้ในพื้นที่โดยรอบยังมีจุดเสี่ยงต่อการแตกตลอดทั้งแนว ซึ่งมีระยะทางประมาณ 44 กิโลเมตร โดยระดับน้ำสูงถึงแนวคันกั้นน้ำแล้วที่ระดับ 1.50 เซนติเมตร พร้อมกันนี้ทาง อบต. ได้ประกาศให้ชาวบ้านอพยพแล้ว ซึ่งบางส่วนนั้นก็ไม่ยอมอพยพออกไป เนื่องจากเกรงว่าทรัพย์สินภายในบ้านนั้นจะสูญหาย
ระพีพัฒน์คลอง4ยังซ่อมไม่ได้-คลอง5แตกอีก
ความคืบหน้าปฏิบัติการปิดพนังกั้นน้ำบริเวณคลองระพีพัฒน์ ต.คลองสี่ หน้าเคหะชุมชนระพีพัฒน์ 1 ยังคงดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง โดนล่าสุด นายถาวร พงษ์กำเนิด ผู้อำนวยการกองช่าง อบต.คลองสี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการใช้เสาเข็มและไม้ยูคาลิปตัส วางเพื่อต้านการไหลของน้ำ ซึ่งเป็นผลสำเร็จ สามารถชะลอการไหลของน้ำได้ 50 % แต่ก็ยังไม่สามารถปิดได้ทั้งหมด โดยในคืนนี้จะดำเนินการทั้งคืน และต้องเฝ้าระวังตลอดทั้งแนว เนื่องจากระดับน้ำใน ขณะนี้ สูงปริ่มกระสอบทราย แนวคันกั้นน้ำซึ่งมีความสูงเพียง 1.50 เมตร ทั้งนี้จะไม่มีการเสริมความสูงเพิ่มขึ้นอีก แต่จะมีการเสริมความหนา เพื่อให้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ นายถาวร ยังกล่าวย้ำว่ายังต้องการความช่วยเหลือจากทหาร เพื่อทำการปิดพนังกั้นน้ำบริเวณนี้ให้ได้โดยเร็ว อย่างไรก็ตามในขณะนี้ยังได้รับรายงานด้วยว่า พนังกั้นน้ำบริเวณคลองห้า นั้น แตกอีกจุดแล้ว ซึ่งมีความกว้างประมาณ 50 เมตร
ศปภ. แถลง เร่งกู้คันกั้นน้ำคลองระพีพัฒน์
นายวิม รุ่งวัฒนจินดา โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) แถลงถึงสถานการณ์น้ำบริเวณคลอง 3 - คลอง 4 โดยได้รับการยืนยันจาก พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผู้อำนวยการ ศปภ. ว่า พนังกั้นน้ำบริเวณคลอง 3 ฝั่งคลองระพีพัฒน์ แตกเป็นระยะทาง 30 เมตร โดยให้ทางกองทัพเร่งซ่อมแซม ขณะเดียวกัน พนังกั้นน้ำบริเวณคลอง 4 ฝั่งคลองระพีพัฒน์ ก็แตกเป็นระยะทาง 30 เมตร เช่นกัน ซึ่งขณะนี้ได้ประสานไปยังกองทัพไทย และกรมทางหลวงชนบท เข้าซ่อมบำรุงแล้ว โดยอยู่ระหว่างการจัดหาวัสดุ คาดว่าจะดำเนินการแล้ว
เสร็จภายใน 2 วัน
นอกจากนี้ กรมชลประทาน ได้ยืนยันว่า สามารถบริหารจัดการน้ำบริเวณทุ่งรังสิตได้ และจะไม่ส่งผลกระทบต่อถนนสายรังสิต - นครนายก ส่วนกระสอบทรายที่ทาง ศปภ. จัดหาให้ โดยลักษณะด้านนอกเป็นกระดาษ แต่ด้านในเป็นโพลีเอสเตอร์ ยืนยันว่ามีความทนทาน สามารถบรรจุทรายได้ตามมาตรฐานกระสอบทรายทั่วไป โดยได้รับบริจาคจากภาคเอกชน ซึ่งยังไม่ได้แจกจ่ายให้กับประชาชนแต่อย่างใด
น้ำทะลักนวนครอีกระลอก-ทหารสั่งอพยพด่วน
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ล่าสุด สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากทางกองทัพบก ได้รายงานว่า พนังกั้นน้ำที่บริเวณหน้าวัดพืชนิมิตร ภายในนิคมนั้นได้แตกเป็นบริเวณกว้างจากเดิม เพิ่มกว่า 30 เมตร ส่งผลให้น้ำจำนวนมากไหลทะลักเข้าท่วมภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนครจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ ทางกองทัพ ตลอดจนหน่วยกู้ภัยต่างๆ ได้สั่งให้กำลังเจ้าหน้าที่ ที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชนภายในนั้น ยุติการช่วยเหลือชั่วคราว และให้ถอนกำลังทันที โดยห้ามนำรถและเรือเข้าไปด้านในเด็ดขาด ส่งผลให้บรรยากาศที่บริเวณทางเข้านิคมอุตสาหกรรมนวนครเกิดความโกลาหลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้มีการประกาศทางเครื่องโทรโข่ง ให้ประชาชนตลอดจนสื่อมวลชน เก็บสิ่งของและออกมาอยู่ในที่ ที่ปลอดภัย
ขณะที่ นายกมล ทรัพย์ผล เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู กล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสานให้ทีมกู้ชีพด้านในถอนกำลังแล้ว เนื่องจากจำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปลอดภัย โดยในวันพรุ่งนี้จะมีการประเมินสถานการณ์ และกำหนดจุดเพื่อช่วยเหลืออีกครั้งหนึ่ง
คลองระพีพัฒน์แตกอีกยาว30ม.เร่งอพยพด่วน
ความคืบหน้าสถานการณ์คันกั้นน้ำพังที่บริเวณคลองระพีพัฒน์ระหว่างคลอง 3 และคลอง 4 หน้าเคหะระพีพัฒน์ 1 เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังมาช่วยอุดแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถต้านทานแรงของน้ำได้ เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรงมาก และได้กัดเซาะกินพื้นที่เพิ่มเป็น 30 เมตร แล้ว
ด้าน นายถาวร พงษ์กำเนิด ผู้อำนวยการกองช่าง อบต.คลอง 4 ผู้ควบคุมการทำงานบริเวณนี้ระบุว่า ในขณะนี้นั้นทำได้เพียงชะลอการไหลของน้ำ แต่ก็ยังไม่สามารถอุดได้ทั้งหมด เนื่องจากยังขาดกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลในการดำเนินการ ซึ่งขณะนี้มีเพียงพระจากวัดธรรมกายเท่านั้น ที่ช่วยนำทรายมาเสริม ทั้งนี้ในพื้นที่โดยรอบยังมีจุดเสี่ยงต่อการแตกตลอดทั้งแนว ซึ่งมีระยะทางประมาณ 44 กิโลเมตร โดยระดับน้ำสูงถึงแนวคันกั้นน้ำแล้วที่ระดับ 1.50 เซนติเมตร พร้อมกันนี้ทาง อบต. ได้ประกาศให้ชาวบ้านอพยพแล้ว ซึ่งบางส่วนนั้นก็ไม่ยอมอพยพออกไป เนื่องจากเกรงว่าทรัพย์สินภายในบ้านนั้นจะสูญหาย
ระพีพัฒน์คลอง4ยังซ่อมไม่ได้-คลอง5แตกอีก
ความคืบหน้าปฏิบัติการปิดพนังกั้นน้ำบริเวณคลองระพีพัฒน์ ต.คลองสี่ หน้าเคหะชุมชนระพีพัฒน์ 1 ยังคงดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง โดนล่าสุด นายถาวร พงษ์กำเนิด ผู้อำนวยการกองช่าง อบต.คลองสี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการใช้เสาเข็มและไม้ยูคาลิปตัส วางเพื่อต้านการไหลของน้ำ ซึ่งเป็นผลสำเร็จ สามารถชะลอการไหลของน้ำได้ 50 % แต่ก็ยังไม่สามารถปิดได้ทั้งหมด โดยในคืนนี้จะดำเนินการทั้งคืน และต้องเฝ้าระวังตลอดทั้งแนว เนื่องจากระดับน้ำใน ขณะนี้ สูงปริ่มกระสอบทราย แนวคันกั้นน้ำซึ่งมีความสูงเพียง 1.50 เมตร ทั้งนี้จะไม่มีการเสริมความสูงเพิ่มขึ้นอีก แต่จะมีการเสริมความหนา เพื่อให้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ นายถาวร ยังกล่าวย้ำว่ายังต้องการความช่วยเหลือจากทหาร เพื่อทำการปิดพนังกั้นน้ำบริเวณนี้ให้ได้โดยเร็ว อย่างไรก็ตามในขณะนี้ยังได้รับรายงานด้วยว่า พนังกั้นน้ำบริเวณคลองห้า นั้น แตกอีกจุดแล้ว ซึ่งมีความกว้างประมาณ 50 เมตร
ศปภ. แถลง เร่งกู้คันกั้นน้ำคลองระพีพัฒน์
นายวิม รุ่งวัฒนจินดา โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) แถลงถึงสถานการณ์น้ำบริเวณคลอง 3 - คลอง 4 โดยได้รับการยืนยันจาก พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผู้อำนวยการ ศปภ. ว่า พนังกั้นน้ำบริเวณคลอง 3 ฝั่งคลองระพีพัฒน์ แตกเป็นระยะทาง 30 เมตร โดยให้ทางกองทัพเร่งซ่อมแซม ขณะเดียวกัน พนังกั้นน้ำบริเวณคลอง 4 ฝั่งคลองระพีพัฒน์ ก็แตกเป็นระยะทาง 30 เมตร เช่นกัน ซึ่งขณะนี้ได้ประสานไปยังกองทัพไทย และกรมทางหลวงชนบท เข้าซ่อมบำรุงแล้ว โดยอยู่ระหว่างการจัดหาวัสดุ คาดว่าจะดำเนินการแล้ว
เสร็จภายใน 2 วัน
นอกจากนี้ กรมชลประทาน ได้ยืนยันว่า สามารถบริหารจัดการน้ำบริเวณทุ่งรังสิตได้ และจะไม่ส่งผลกระทบต่อถนนสายรังสิต - นครนายก ส่วนกระสอบทรายที่ทาง ศปภ. จัดหาให้ โดยลักษณะด้านนอกเป็นกระดาษ แต่ด้านในเป็นโพลีเอสเตอร์ ยืนยันว่ามีความทนทาน สามารถบรรจุทรายได้ตามมาตรฐานกระสอบทรายทั่วไป โดยได้รับบริจาคจากภาคเอกชน ซึ่งยังไม่ได้แจกจ่ายให้กับประชาชนแต่อย่างใด