จนท.คาดใช้เรือดันน้ำลงทะเลถึงสิ้นเดือน
เจ้าหน้าที่จาก กองทัพเรือ คุมเรือผลักดันน้ำจากอู่ฐานทัพเรือพระจุลจอมเกล้า รวม 10 นาย ไปปฏิบัติหน้าที่และควบคุมเรือผลักดันน้ำที่บริเวณคลองลัดโพธิ์ ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ตลอด 24 ช.ม. ทั้งนี้ สำหรับคลองลัดโพธิ์นั้น ได้มีการนำเรือมา 11 ลำ จาก 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย กองทัพเรือฝ่ายยุทธการ และกองทัพเรือจากอู่ฐานทัพเรือพระจุลจอมเกล้า รวม 6 ลำ
นอกจากนี้ ยังมีจาก กรมประมง กองบังคับการตำรวจน้ำ การท่าเรือแห่งประเทศไทย และ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต รวม 5 ลำ มาช่วยในการเร่งผลักดันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ลงสู่ทะเลให้เร็วขึ้น โดยเรือผลักดันน้ำจากอู่ฐานทัพเรือพระจุลจอมเกล้า 1 ลำ นั้น สามารถเร่งอัตราการไหลของน้ำได้ที่ 41 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยการทำงานนั้น เจ้าหน้าที่ จะแบ่งเป็น 2 ชุด ประกอบด้วย ชุดเอ 6 ลำ และชุดบี 5 ลำ ผลัดเวียนกันทำงานตลอด 24 ช.ม.
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ควบคุม ยังกล่าวด้วยว่า การที่เราเร่งผลักดันน้ำนั้น เป็นโครงการตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงนำมาใช้และได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ จากการประเมินแล้ว คาดว่า ต้องใช้เรือผลักดันน้ำต่อไปอย่างน้อย จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม เนื่องจาก ยังคงมีน้ำเหนือ น้ำทะเลหนุน ประกอบด้วยน้ำฝน ที่ยังคงมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น แต่สิ่งที่เจ้าหน้าที่
กังวล คือ ปริมาณน้ำฝนที่ไม่สามารถควบคุมได้
นอกจากนี้ ยังมีจาก กรมประมง กองบังคับการตำรวจน้ำ การท่าเรือแห่งประเทศไทย และ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต รวม 5 ลำ มาช่วยในการเร่งผลักดันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ลงสู่ทะเลให้เร็วขึ้น โดยเรือผลักดันน้ำจากอู่ฐานทัพเรือพระจุลจอมเกล้า 1 ลำ นั้น สามารถเร่งอัตราการไหลของน้ำได้ที่ 41 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยการทำงานนั้น เจ้าหน้าที่ จะแบ่งเป็น 2 ชุด ประกอบด้วย ชุดเอ 6 ลำ และชุดบี 5 ลำ ผลัดเวียนกันทำงานตลอด 24 ช.ม.
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ควบคุม ยังกล่าวด้วยว่า การที่เราเร่งผลักดันน้ำนั้น เป็นโครงการตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงนำมาใช้และได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ จากการประเมินแล้ว คาดว่า ต้องใช้เรือผลักดันน้ำต่อไปอย่างน้อย จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม เนื่องจาก ยังคงมีน้ำเหนือ น้ำทะเลหนุน ประกอบด้วยน้ำฝน ที่ยังคงมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น แต่สิ่งที่เจ้าหน้าที่
กังวล คือ ปริมาณน้ำฝนที่ไม่สามารถควบคุมได้