นายกยันเร่งระบายน้ำย้ำป้องเขตศก.

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน รายงานสถานการณ์น้ำท่วม โดยเป็นการบันทึกเทปไว้เมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากต้องการใช้เวลาช่วงเช้าวันนี้ ติดตามการแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วม ที่ยังคงวิกฤติอยู่ในหลายพื้นที่ โดย นายกรัฐมนตรี รายงานถึงสภาพความวิกฤติจากน้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งรัฐบาลยึดหลักปฏิบัติป้องกันเขตเศรษฐกิจสำคัญต่าง ๆ เช่น สถานที่สำคัญ อย่าง ท่าอากาศยาน ศูนย์อพยพต่าง ๆ ซึ่งจะเร่งผลักดันน้ำสู่ทะเล โดยใช้ 3 ช่องทาง คือ ปากแม่น้ำเจ้าพระยา และการระบายลงทะเลในฝั่งตะวันออก และตะวันตกของลำน้ำเจ้าพระยา ซึ่งฝั่งตะวันออก จะผ่านทาง จ.นครนายก โดยมีการขุดลอกคูคลอง เพิ่มเติม 7 แห่ง ซึ่งจะใช้เป็นช่องทางระบายน้ำสู่ทะเล ขณะที่ ทางด้านฝั่งตะวันตก จะใช้คลองมหาสวัสดิ์ คลองมหาชัย และอีกหลายคลอง ซึ่งรัฐบาลจะเร่งขุดทางลัด เพื่อร่นระยะเวลาการไหลของมวลน้ำ ออกสู่ทะเลด้วยเช่นกัน โดยในส่วนของการผลักดันน้ำ ต้องขอบคุณภาคเอกชน ที่ช่วยนำเรือมาใช้ในการผลักดันน้ำร่วมกันในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า คันกั้นน้ำทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร มีความแข็งแรงมาก ซึ่งขอให้วางใจว่า จะไม่มีน้ำเข้าท่วมในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร แน่นอน




นายกฯถกเหล่าทัพสำรวจผู้ตกค้างน้ำท่วม
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมกับ ผู้นำทุกเหล่าทัพ และผู้แทนจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ที่ยังคงติดค้างอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ทหารทุกเหล่าทัพ ให้ลงไปสำรวจพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในแต่ละจังหวัด เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ยังติดค้างอยู่ภายในบ้าน โดยให้ กองทัพเรือและกองทัพอากาศ ช่วยอพยพประชาชน โดยได้มีการเสนอแนะให้ข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย ที่ได้จากการสำรวจสำมะโนประชากร ซึ่งจะทำให้ค้นหาได้อย่างละเอียด ก่อนอพยพประชาชนมายังศูนย์อพยพ

ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวอีกว่า ประเทศไทย ยังได้รับความร่วมมือจากประเทศสหรัฐ ในการจัดส่งเฮลิคอปเตอร์ชีนุก จำนวน 20 ลำ เพื่อมาปฏิบัติหน้าที่ค้นหาประชาชน ซึ่งจะจัดส่งมาถึงภายใน 48 ช.ม.นี้ อีกด้วย