ยังไม่ชัดรุกป่าวังน้ำเขียวนัดถกอีก11ต.ค.

นายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยภายหลังการประชุม กรณีการบุกรุกพื้นที่ป่าวังน้ำเขียว ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. กรมป่าไม้ และสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว โดยการประชุมในวันนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนของขอบเขตพื้นที่ เพราะแต่ละหน่วยงาน มีแผนที่อัตราส่วนที่ไม่เท่ากัน ทำให้ยังมีพื้นที่ทับซ้อน จึงได้มอบหมายให้กรมป่าไม้และกรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ เร่งสำรวจพื้นที่ และจำนวนผู้บุกรุกพื้นที่ทำกิน และนัดประชุมใหม่อีกครั้ง ในวันที่
11 ตุลาคม นี้
ทั้งนี้ เมื่อหาข้อสรุปได้แล้ว จะนำข้อสรุปเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติให้เป็นต้นแบบวังน้ำเขียวโมเดล เพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกป่าต่อไป
นอกจากนี้ นายศรีราชา ได้กล่าวถึงแนวทางสำหรับผู้ที่เข้าไปทำกินในพื้นที่ป่าวังน้ำเขียว โดยไม่เจตนา หรือ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพื่อเป็นการเยียวยา และยุติปัญหาความขัดแย้ง ว่า สามารถให้อาศัยอยู่ในพื้นที่ชั่วคราวได้ แต่ไม่เกิน 15 ปี โดยจะต้องไม่ปลูกสิ่งก่อสร้างเพิ่มเติม ไม่บุกรุกป่า รวมถึงไม่ขายต่อเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ ส่วนผู้ประกอบกิจการรีสอร์ท จะต้องปลูกป่าตามคำสั่งของกรมป่าไม้เพิ่มเติมในพื้นที่ เพื่อเป็นการฟื้นฟูสภาพป่าให้มีความสมบูรณ์ ภายหลังจากที่มีการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างออกไป ทั้งนี้หากผิดเงื่อนไขก็จะมีคำสั่งให้ย้ายออกจากพื้นที่ทันที ทั้งนี้ก็จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการ หรือ อนุกรรมการขึ้นมาพิจารณาความเหมาะสมด้วย
11 ตุลาคม นี้
ทั้งนี้ เมื่อหาข้อสรุปได้แล้ว จะนำข้อสรุปเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติให้เป็นต้นแบบวังน้ำเขียวโมเดล เพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกป่าต่อไป
นอกจากนี้ นายศรีราชา ได้กล่าวถึงแนวทางสำหรับผู้ที่เข้าไปทำกินในพื้นที่ป่าวังน้ำเขียว โดยไม่เจตนา หรือ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพื่อเป็นการเยียวยา และยุติปัญหาความขัดแย้ง ว่า สามารถให้อาศัยอยู่ในพื้นที่ชั่วคราวได้ แต่ไม่เกิน 15 ปี โดยจะต้องไม่ปลูกสิ่งก่อสร้างเพิ่มเติม ไม่บุกรุกป่า รวมถึงไม่ขายต่อเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ ส่วนผู้ประกอบกิจการรีสอร์ท จะต้องปลูกป่าตามคำสั่งของกรมป่าไม้เพิ่มเติมในพื้นที่ เพื่อเป็นการฟื้นฟูสภาพป่าให้มีความสมบูรณ์ ภายหลังจากที่มีการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างออกไป ทั้งนี้หากผิดเงื่อนไขก็จะมีคำสั่งให้ย้ายออกจากพื้นที่ทันที ทั้งนี้ก็จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการ หรือ อนุกรรมการขึ้นมาพิจารณาความเหมาะสมด้วย