ชี้นโยบายบ้านหลังแรกไม่ชัดเจน กระทบตลาดอสังหาฯ

(6 ก.ย.)- นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า ความไม่ชัดเจนของนโยบายบ้านหลังแรก ทำให้ลูกค้าของธนาคารประมาณร้อยละ 5-10 ชะลอการเบิกจ่ายวงเงินสินเชื่อ เพื่อรอดูรายละเอียดมาตรการว่าจะให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี หรือให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0 ด้วย
ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ไม่สามารถขายบ้านที่มีอยู่ในสตอกได้ จึงขอให้รัฐบาลเร่งสร้างความชัดเจน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 ที่จะเป็นช่วงที่มีการซื้ออสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก และปล่อยสินเชื่อสูงถึง 100,000 ล้านบาท
นายฐากร กล่าวว่า ในเรื่องมาตรการดอกเบี้ย หากรัฐบาลยังกำหนดวงเงินโครงการที่ 25,000 ล้านบาท และวงเงินบ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท คาดว่าจะกระทบกับการปล่อยสินเชื่อบ้านทั้งระบบประมาณร้อยละ 10 แต่ถ้ากำหนดวงเงินโครงการ 50,000 ล้านบาท และราคาบ้านไม่เกิน 5 ล้านบาท เชื่อว่าจะกระทบกับการปล่อยสินเชื่ออย่างมาก เพราะราคาบ้าน 5 ล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 70 ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ สำหรับการปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของธนาคารในช่วง 8 เดือนแรกปีนี้ มียอดปล่อยสินเชื่อ 18,500 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายประมาณร้อยละ 3-4 เป็นผลจากการชะลอดูนโยบายบ้านหลังแรก แต่ยังเชื่อว่าทั้งปีจะยังปล่อยได้ 30,000 ล้านบาท
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวอีกว่า แม้รัฐบาลจะมีมาตรการนโยบายบ้านหลังแรก ตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็สามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง เพราะประชาชนมีรายได้สูงขึ้น จากนโยบายขึ้นค่าแรงและเงินเดือนขั้นต่ำ/ แรงกดดันอัตราเงินเฟ้อลดลง จากราคาน้ำมันที่ลดลง ส่งผลให้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชะลอลง.-สำนักข่าวไทย