ชาวแปดริ้วกว่า2พันปิดถนนต้านโรงไฟฟ้า

ชาวบ้านจาก 12 ตำบล ในเขตพื้นที่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา ประกอบด้วย ชาวตำบลคลองนครเนื่องเขต วังตะเคียน บางเตยท่าไข่ หนามแดง บางกะไห เกาะไร่ คลองอุดมชลจร คลองหลวงแพ่ง คลองเปร็ง ศาลาแดง และบ้านคลองเจ้า จำนวนกว่า 2 พันคน ได้กรูกันเข้าไปนั่งอยู่บนพื้นผิวการจราจร เพื่อปิดขวางเส้นทางการสัญจรบนถนนสายสุวินทวงศ์ บริเวณสามแยกสตาร์ไลท์ พื้นที่ ม.5 ต.วังตะเคียน อ.เมืองฉะเชิงเทรา ทุกช่องทาง จนทำให้การสัญจรบนเส้นทางกลายเป็นอัมพาตลงในทันที ซึ่งการชุมนุมในวันนี้ เป็นการชุมนุมเพื่อต่อต้านโรงไฟฟ้าของบริษัทฉะเชิงเทรา โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ทำให้ชาวบ้านผู้ประกอบอาชีพ ในภาคเกษตรกรรม หวั่นเกรงว่า จะถูกแย่งชิงเอาทรัพยากร โดยเฉพาะน้ำ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการทำนา และอาจได้รับผลกระทบจากมลพิษที่จะเกิดขึ้น ทางผู้ชุมนุมได้มีการการปราศรัย หลังจากนั้น กลุ่มชาวบ้านจึงได้พากันออกมาอยู่บนท้องถนน เนื่องจากไม่พอใจที่ นายกิตติ ทรัพย์ วิสุทธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ไม่ยินยอมลงมาพบกับกลุ่มชาวบ้าน โดยได้ส่ง นางสุมิตรา ศรีสมบัติ พร้อมด้วย นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้ง 2 คน พร้อมด้วย นายภุชงค์ รังสินธุ์ นายอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา เป็นผู้ลงมาเจรจาร่วมกับชาวบ้านแทน ซึ่งการเจรจาร่วมกับตัวแทนชาวบ้านนั้น ได้ใช้เวลากว่า 2 ช.ม. จึงได้ข้อสรุปในเบื้องต้นว่า ให้กลุ่มชาวบ้านที่คัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ร่วมกันร่างคำร้องส่งไปยังศาลปกครอง พร้อมกับลงลายมือชื่อร่วมกันในท้ายคำร้อง
กลุ่มผู้ชุมนุมปิดถนนสาย 304 สุวินทวงศ์มีนบุรี-ฉะเชิงเทรา ยอมสลายตัวเปิดเส้นทางให้รถยนต์สัญจรผ่านได้แล้วหลังจาก
นายกิตติ ทรัพย์วิสุทธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ยอมเดินทางไปพบกลับกลุ่มชาวบ้านบนเวที ในที่ชุมนุม เมื่อเวลา 13.30 น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.มณฑล มีอนันต์ ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา และได้พยายามที่จะชี้แจงให้กลุ่มชาวบ้านเข้าใจว่า ทางจังหวัดนั้นไม่มีอำนาจที่จะระงับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าของภาคเอกชนดังกล่าวที่จะเข้ามาก่อสร้างในพื้นที่ได้ โดยหน่วยงานที่จะสั่งระงับโครงการได้ คือ ศาลปกครอง โดยได้ใช้เวลาในการทำความเข้าใจต่อชาวบ้านประมาณ 30 นาที ชาวบ้านจึงยอมสลายการชุมนุมออกจากผิวการจราจรบนถนนสายสุวินทวงศ์ไปในที่สุด
ขณะที่ นางสุมิตรา ศรีสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า คำร้องที่ชาวบ้านได้เตรียมนำไปยื่นต่อศาลปกครองนั้น เป็นการขอให้ "ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้บริษัทดังกล่าว หยุดดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจนกว่าจะได้ข้อยุติร่วมกัน" สำหรับผลการร้องคัดค้านคาดว่า จะออกมาในเร็วๆ นี้ เนื่องจากในคำร้องนั้น ได้ร้องขอให้ศาล ดำเนินการไต่สวนเป็นกรณีเร่งด่วน
ด้าน นายสมชัย ลายประดิษฐ์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/1 ม.17ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ชาวบ้านจะมารอฟังผลการพิจารณาของศาลปกครองอีกครั้ง ในวันอังคารที่ 30 ส.ค. 2554 ที่จะถึงนี้ ในบริเวณที่ชุมนุมเดิมแห่งนี้ และได้นัดรวมตัวกันอีกครั้งว่า จะกลับมาชุมนุมใหญ่ในวันที่ 4 ก.ย. 2554 อีกครั้ง เพื่อที่จะแจ้งผลให้แก่ชาวบ้านส่วนใหญ่ ที่เดินทางมาร่วมชุมทุกคนได้ทราบโดยทั่วกัน
กลุ่มผู้ชุมนุมปิดถนนสาย 304 สุวินทวงศ์มีนบุรี-ฉะเชิงเทรา ยอมสลายตัวเปิดเส้นทางให้รถยนต์สัญจรผ่านได้แล้วหลังจาก
นายกิตติ ทรัพย์วิสุทธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ยอมเดินทางไปพบกลับกลุ่มชาวบ้านบนเวที ในที่ชุมนุม เมื่อเวลา 13.30 น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.มณฑล มีอนันต์ ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา และได้พยายามที่จะชี้แจงให้กลุ่มชาวบ้านเข้าใจว่า ทางจังหวัดนั้นไม่มีอำนาจที่จะระงับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าของภาคเอกชนดังกล่าวที่จะเข้ามาก่อสร้างในพื้นที่ได้ โดยหน่วยงานที่จะสั่งระงับโครงการได้ คือ ศาลปกครอง โดยได้ใช้เวลาในการทำความเข้าใจต่อชาวบ้านประมาณ 30 นาที ชาวบ้านจึงยอมสลายการชุมนุมออกจากผิวการจราจรบนถนนสายสุวินทวงศ์ไปในที่สุด
ขณะที่ นางสุมิตรา ศรีสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า คำร้องที่ชาวบ้านได้เตรียมนำไปยื่นต่อศาลปกครองนั้น เป็นการขอให้ "ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้บริษัทดังกล่าว หยุดดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจนกว่าจะได้ข้อยุติร่วมกัน" สำหรับผลการร้องคัดค้านคาดว่า จะออกมาในเร็วๆ นี้ เนื่องจากในคำร้องนั้น ได้ร้องขอให้ศาล ดำเนินการไต่สวนเป็นกรณีเร่งด่วน
ด้าน นายสมชัย ลายประดิษฐ์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/1 ม.17ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ชาวบ้านจะมารอฟังผลการพิจารณาของศาลปกครองอีกครั้ง ในวันอังคารที่ 30 ส.ค. 2554 ที่จะถึงนี้ ในบริเวณที่ชุมนุมเดิมแห่งนี้ และได้นัดรวมตัวกันอีกครั้งว่า จะกลับมาชุมนุมใหญ่ในวันที่ 4 ก.ย. 2554 อีกครั้ง เพื่อที่จะแจ้งผลให้แก่ชาวบ้านส่วนใหญ่ ที่เดินทางมาร่วมชุมทุกคนได้ทราบโดยทั่วกัน