ชาวบ้านโวย ตร.บางซื่อ ทำร้ายประชาชน

เมื่อเวลา 21.00 น.(25 ส.ค.) ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ มีกลุ่มชาวบ้านจากชุมชนภายในซอยอินทามระ 14 กว่า 50 คน รวมตัวเพื่อร้องเรียนเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ ร.ต.อ. โดยกล่าวหาว่า กระทำเกินกว่าเหตุ ทั้งนี้ นางณัฐนิชา ดวงหิรัญ ญาติผู้เสียหาย วัยรุ่นหญิงและชาย เปิดเผยอ้างว่า ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ขณะที่ หลานสาวและแฟนหนุ่มของหลานสาว กำลังเติมน้ำมันรถ ภายในปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ซอยอินทามระ 4 ต่อมามีตำรวจยศ ร.ต.อ. และชุดสืบอีกจำนวนหนึ่ง เข้ามาเรียกและขอตรวจค้น ภายหลังตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใด ๆ
จึงแจ้งข้อหา ไม่สวมหมวกกันน็อค , ป้ายวงกลม และใบอนุญาตขับขี่ จะต้องไปทำการเสียค่าปรับที่โรงพัก แต่หลานสาวและแฟนหนุ่ม บอกว่า ขอกลับไปที่บ้านเพื่อบอกผู้ปกครองก่อน แล้วจะไปโรงพักเพื่อเสียค่าปรับ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยินยอม พร้อมกับจับแฟนหลานสาว นอนลง อีกทั้ง ยังทำร้ายร่างกาย และใช้เท้าเหยียบกลางหลัง เพื่อใส่กุญแจมือ เป็นจังหวะที่กำลังชุลมุน หลานสาวตนจะ
เข้าไปช่วยแฟน โดนมือตำรวจสะบัดไปโดนหน้าหลานสาวตน ท่ามกลางเหตุการณ์ต่อหน้าประชาชนจำนวนมาก ตนพร้อมกับญาติ ๆ และชาวบ้านในชุมชน จึงเดินทางมาร้องเรียนที่โรงพัก เพื่อขอความเป็นธรรม และยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด โดย พ.ต.อ.สมศักดิ์ วิมานรัตน์ ผู้กำกับการสถานี จึงได้ให้ผู้เสียหายได้ทำการลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน เพื่อจะได้ตรวจสอบข้อมูล และจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ด้าน ร.ต.อ. ผู้ถูกกล่าวหา กล่าวยืนยันว่า ตนปฏิหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ เป็นคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ออกตรวจพื้นที่ จนกระทั่งพบ รถจักรยานยนต์ ต้องสงสัยไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยมีชายและหญิงซึ่งทั้งสองไม่สวมหมวกกันน็อคด้วย จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบขอตรวจบัตรประชาชน แต่ทั้งสองคนไม่มีบัตรแสดง จึงเชิญตัวไปโรงพักเพื่อเปรียบเทียบปรับดำเนินคดีเพราะเป็นเพียงแค่ลหุโทษ แต่ถูกปฏิเสธว่า และขัดขืน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก ชุมชนภายในซอยอินทามระ 14 เป็นชุมชนหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายสีแดง อีกทั้ง กลุ่มที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าทำการตรวจค้นนั้น ก็เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่อยู่ในบัญชี อีกด้วย