หมอตุลย์นำเสื้อหลากสียื่นค้านวีซ่าทักษิณ

น.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานกลุ่มเครือข่าย พลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน หรือ กลุ่มคนเสื้อหลักสี เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการเคลื่อนไหว เพื่อคัดค้านกรณีประเทศญี่ปุ่น ออกวีซ่าให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้เดินทางเข้าประเทศว่า ในวันนี้ เวลา 10.00 น. กลุ่มคนเสื้อหลากสี จะนัดรวมตัวกันที่สถานทูตญี่ปุ่น ถนนวิทยุ เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านต่อกรณีดังกล่าว แม้เรื่องดังกล่าวจะเป็นของรัฐบาล ที่ต้องดำเนินการก็ตาม แต่ทางกลุ่มอยากเรียกร้องให้คนญี่ปุ่นที่รักความยุติธรรม ออกมาทวงถามความเป็นจริงกับรัฐบาลของประเทศตนเองว่า กรณีดังกล่าว มีหนังสือคำสั่งอย่างเป็นทางการ และดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะไปช่วยเหยื่อจากเหตุแผ่นดินและสึนามิ ที่ผ่านมา ก็เป็นการเอาเงินที่มาจากการคดโกง เงินสกปรก ไม่ได้มีศักดิ์ศรี และยังเป็นนักโทษที่หนีคดีอีกด้วย โดยตนจะนำเอาคำตัดสิน ยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาท ไปยื่นด้วย

ส่วนการดำเนินการดังกล่าวนั้น จะได้ผลหรือไม่ ต้องรอดูอีกครั้ง หากยังไม่มีความชัดเจนเรื่องเอกสาร ก็จะต้องมีการทวงถามไปยัง กระทรวงการต่างประเทศ รวมถึง จับตาดูการแถลงนโยบายของรัฐบาลด้วยว่า จะมีนโยบายช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ ซึ่งแทนที่ รัฐบาล จะนำตัวนักโทษกลับมาประเทศ แต่กลับให้การสนับสนุนเข้าไปประเทศอื่น

อย่างไรก็ตาม นอกจากการเดินทางไปยื่นหนังสือหน้าสถาทูตแล้ว ในเวลา 14.00 น. กลุ่มคนเสื้อหลากสี จะเดินทางไปให้กำลังใจ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เกี่ยวกับการประกาศว่า จะปราบปรามเว็บไซต์หมิ่นสถาบันด้วยว่า เรื่องดังกล่าวจะทำจริงหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาตนก็ยังไม่ได้พูดคุยด้วยโดยตรง



ทั้งนี้ น.พ.ตุลย์ กล่าวว่า การที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประสานไปทางญี่ปุ่น เพื่อช่วยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าประเทศว่า การกระทำดังกล่าว เป็นเหมือนการรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นการกระทำที่เหมือนสายล่อฟ้าให้กับรัฐบาลใหม่ ด้วย

น.พ.ตุลย์ ยังกล่าวว่า ที่เดินทางมายื่นหนังสือในวันนี้ เพื่อต้องการสื่อสารกับประเทศญี่ปุ่นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีที่โกงที่สุด ไม่ควรอนุมัติให้เข้าประเทศ แต่หากต้องการอนุมัติ ก็ให้ส่งตัวมายังประเทศไทย เพื่อให้มารับโทษ

ทั้งนี้ เลขาธิการสถานทูตญี่ปุ่น ได้รับรองว่า จะมีการส่งรายงานเรื่องดังกล่าว ไปยังโตเกียว เพื่อให้มีการพิจารณาแน่นอน